"หมอธีระ"ยกงานวิจัย ตปท.นั่งกินในร้านอาหารเสี่ยงติด-แพร่โควิด

2021-08-25 10:22:06

"หมอธีระ"ยกงานวิจัย ตปท.นั่งกินในร้านอาหารเสี่ยงติด-แพร่โควิด

Advertisement

"หมอธีระ"ยกงานวิจัย ตปท. ชี้การนั่งกินในร้านอาหาร ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อโควิด-19  ร้านติดแอร์นั่งห่าง 4.6 เมตร ก็แพร่เชื้อได้

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจ Thira Woratanarat  ระบุถึงสถานการณ์โควิด-19 ตอนหนึ่งว่า  สถานการณ์ของไทยเรานั้น ยังมีการระบาดกระจายไปทั่ว อย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถตัดวงจรการรระบาดได้ ศึกที่รุนแรง ยาวนานยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน และพอถึงจุดหนึ่งก็จะไม่สามารถยืนระยะได้ โดยฉากที่โหดสุดและไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยคงเป็นการที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอในการเยียวยา และยอมจำนนจนต้องปล่อยให้ดำเนินชีวิตกันไป ในกรณีดังกล่าวนั้นจะไม่สามารถใช่คำสวยหรูแบบ New Normal ได้อีกต่อไป เพราะมันไม่ใช่ภาวะปกติ แต่จะเป็น New Abnormal

เกี่ยวกับเรื่องการนั่งกินในร้านอาหาร มีงานวิจัยจำนวนไม่น้อย ที่ระบุให้เห็นถึงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อโรคโควิด-19 ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ 25 ก.ค. 2020 มีเคสที่มีการสอบสวนทางระบาดวิทยาแล้วพบว่าเชื่อมโยงกับการนั่งทานภายในร้านอาหาร ถึง 20 ราย โดยเป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะพันธุกรรมและการกลายพันธุ์ตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด

ในขณะที่ประเทศอเมริกา มีการศึกษาตั้งแต่ มี.ค.ถึง ธ.ค. 2020 พบว่าการประกาศนโยบายให้นั่งกินในร้านอาหารได้นั้น จะสัมพันธ์กับการเพิ่มจำนวนติดเชื้อใหม่ต่อวัน โดยจะส่งผลให้เห็นภายใน 41-100 วัน และสัมพันธ์กับจำนวนการเสียชีวิตต่อวันเพิ่มขึ้นด้วย โดยจะเห็นผลภายใน 61-100 วัน

นอกจากนี้ การวิจัยในประเทศจีน สำรวจร้านอาหารติดแอร์ซึ่งมีเหตุการณ์แพร่เชื้อติดเชื้อในลูกค้าที่มารับประทานอาหารจำนวนทั้งสิ้น 10 คน พบว่าแม้จะนั่งห่างกันถึง 4.6 เมตร แต่มีการติดเชื้อแพร่เชื้อได้ โดยน่าจะมาจากการระบายอากาศที่ไม่ดี และลมที่เป่าจากแอร์ที่นำพาเชื้อให้แพร่ไปได้ระยะไกล หรือที่เรียกว่าติดเชื้อไวรัสที่ฟุ้งกระจายผ่านทางอากาศ (aerosol transmission/airborne transmission) และสุดท้ายแล้ว หากนโยบายและมาตรการต่างๆ ได้รับการประกาศมาใช้แบบผิดทิศผิดทาง ก็คงหนีไม่พ้นประชาชนแต่ละคนที่จะต้องมีความรู้เท่าทัน ป้องกันตัวให้รอดพ้นจากโรคโควิด-19 ด้วยตนเอง ไม่ให้ติดเชื้อแล้วเอาไปแพร่ให้คนในครอบครัว หรือคนอื่นในสังคม

โดยทีมจากไต้หวันทำการวิจัยตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของทัศนคติของแต่ละคน อุปนิสัยพื้นฐาน และความยับยั้งชั่งใจ จะมีผลต่อพฤติกรรมที่เราประพฤติปฏิบัติ หากเปิด แต่รู้ว่าสถานการณ์ระบาดรุนแรงกระจายไปทั่ว แล้วยังตัดสินใจไปสัมผัสกับความเสี่ยงหรือไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยง ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการติดเชื้อ และแพร่ต่อไปตามลำดับ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ขอให้ประชาชนอย่างพวกเราทุกคน มีความรู้เท่าทัน ใช้ความรู้ที่ถูกต้องเป็นแสงส่องทางเพื่อชี้นำการตัดสินใจของเราด้วยหลักเหตุและผล ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบกิจการร้านอาหารก็ควรทราบความรู้ต่างๆ ข้างต้น เพื่อนำไปหาทางประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันตนเอง บุคลากรในร้าน และลูกค้า ให้เกิดความปลอดภัย จะได้ไม่เกิดการติดเชื้อแพร่เชื้อ และอย่าลืมใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก

ขอบคุณเพจ Thira Woratanara