"วันชัย"ชี้โหวตแก้ รธน.วาระ 2 ผ่านแน่นอน ผวาใช้บัตรเลือกตั้ง2ใบ เกิดเผด็จการรัฐสภา "ก้าวไกล-ภท." ได้รับผลกระทบ
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 24-25 ส.ค. วาระ 2 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่า ส.ว.ได้พูดคุยกัน ซึ่งบางกลุ่ม เห็นว่าสามารถทำได้ แต่บางกลุ่มเห็นว่าทำได้ แต่ที่ทำมาเกินกว่าหลักการไปมาก เพราะในข้อเท็จจริง ร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขเพียง 2 มาตรา แต่เมื่อ กมธ. แก้ไขจริง มีการแก้ไขในมาตราอื่นๆ ด้วย บางฝ่ายจึงมองว่าเป็นการแก้ไขเกินกว่าหลักการข้อเสนอเกินไป เท่าที่ดูบรรยากาศ ส.ว.ส่วนใหญ่ขณะนี้ เป็นอิสระ ยังไม่มีลักษณะการชี้นำการลงมติ ประกอบกับยังอยู่ในการพิจารณาวาระที่ 2 ที่ใช้เสียงข้างมากของรัฐสภาในการลงมติ ซึ่งแม้ว่า ส.ว.จะออกเสียงอย่างไรก็แล้วแต่ ก็เชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่น ๆ จะสามารถชนะโหวตได้ แต่ตัวชี้ขาดจริง ๆ คือ การพิจารณาวาระที่ 3 ที่ใช้เสียง ส.ว.อย่างน้อย 84 เสียง เมื่อถึงตอนนั้น ส.ว.อาจจะมากำหนด หรืออาจมาสรุปหลังการอภิปรายในวาระที่ 2 อีกครั้งว่า ส.ว.จะมีแนวทางอย่างไร
นายวันชัย กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นความต้องการพรรคการเมือง และเป็นเรื่องของนักการการเมือง ไม่ใช่ประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ส.ว.จึงไม่มีท่าทีต่อการเคลื่อนไหวดังกล่าวมากเท่าใด และส่วนใหญ่ขอให้ ส.ว.ตัดสินใจลงมติครั้งนี้โดยอิสระ ผิดจาก 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ที่มีแนวทางชัดเจนว่า ส.ว.จะรับหรือไม่รับการแก้ไข นอกจากนี้ยังมี ส.ว.ส่วนหนึ่งกังวลว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญในระบบการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้พรรคใหญ่ชนะการเลือกตั้งแบบกินเรียบ และมีแนวโน้มการเกิดเผด็จการรัฐสภาเหมือนในอดีต และยังมีแนวโน้มสำคัญว่า พรรคการเมืองบางพรรค มีสิทธิกลับมาด้วยระบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ทำให้บทเรียนในอดีต และความเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในอดีต ที่อยู่ต่างประเทศ เป็นข้อวิตกกังวลของ ส.ว.ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในระบบการเลือกตั้งได้
นายวันชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งมีบทเรียนจากอดีตที่บางกลุ่มการเมือง จากการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา คะแนนก็ยังเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และคราวนี้ก็เชื่อว่า เสียงของพรรคการเมืองพรรคนั้นจะยังนำอยู่ แต่ที่จะได้รับผลกระทบอย่างแรง คือ พรรคก้าวไกล และพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นอาจทำให้ระบบการถ่วงดุลในสภาเสียไป ทำให้เกิดดำเนินการแบบเบ็ดเสร็จทั้งด้านนิติบัญญัติและบริหาร เพราะการมีเสียงข้างมากเกินไป ยังเป็นสิ่งที่น่ากลัว และบ้านเมืองอาจจะไม่สงบได้ จากการตามเช็คบิล ตรวจสอบติดตามกันภายหลัง เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้น ก็พอทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงสัญญาณจากต่างประเทศก็ยังแรงขนาดนี้ ส.ว. จึงยังกังวล
นายวันชัย กล่าวด้วยว่า การตัดสินใจของ ส.ว.ขณะนี้ ยังอยู่ในภาวะที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปซ้ายหรือขวา เพราะยังรอดูสถานการณ์ และบรรยากาศก่อน เพราะขณะนี้เอง ความเห็นของ ส.ส.ในสภา ก็ยังแตกหลายฝ่าย เพราะเท่าที่สังเกต พรรคภูมิใจไทยก็ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขครั้งนี้ หรือแม้แต่ ส.ว.บางกลุ่ม ก็ไม่เอาด้วย เพราะเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกินเลยเกินไป และอาจเป็นบรรทัดฐานในการแก้ไขกฎหมายสำคัญอื่น ๆ ที่อาจเลื้อยเกินหลักการไปได้ แต่มั่นใจว่า การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ในวาระที่ 2 จะสามารถผ่านไปด้วย แม้ ส.ว. จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม เพราะใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งอาจมี ส.ว.ส่วนหนึ่งงดออกเสียง ทั้งวาระที่ 2 และวาระที่ 3