ดอกหญ้าน้ำผึ้งล้วนมีค่า ผุดดอกกลางทุ่งนาสะพรั่ง บางคนเมิน แต่ชาวบ้านเมืองสุรินทร์พากันเก็บเกี่ยวมาผึ่งลมผึ่งแดด ส่งขายที่สวนจตุจักร กทม.สร้างรายได้หลังเก็บเกี่ยวข้าวสบายอารมณ์
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ หลายตำบลต่างหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ ในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา ซึ่งอาชีพเสริมก็มีแตกต่างกันไปตามความถนัด โดยเฉพาะชาวบ้านกระเบื้องใหญ่ ม.1 ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ที่ต่างหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยผู้ชายก็จะออกไปดักปลาไหลมาขาย คนแก่ก็ทอเสื่อกกขาย ส่วนผู้หญิงและสาวๆก็พากันเกี่ยวดอกหญ้าน้ำผึ้ง มาคัดแยกและมัดรวมกัน ก่อนจะนำไปตากแดดให้แห้งสนิท เพื่อรอพ่อค้ามารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 50 บาท เพื่อไปจำหน่ายต่อ ที่สวนจตุจักร กทม.ซึ่งเป็นงานที่ไม่ต้องออกแรงมาก เพียงแค่เสียเวลาในการไปเก็บเกี่ยวและคัดแยกเศษไม้ใบหญ้าออกจากดอกไม้และนำไปตากให้แห้งเท่านั้น
นางสาวกัลยาณี สุจิบาน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.1 บ้านกระเบื้องใหญ่ ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ดอกหญ้าน้ำผึ้งมักจะออกตามทุ่งนา ในช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ซึ่งมักจะนิยมนำไปใส่แจกันประดับดอกไม้ต่างๆ โดยใช้เคียวเกี่ยวข้าวไปเกี่ยวมาจากทุ่งนา ก่อนนำมาคัดแยกเอาเศษใบหญ้าออก และมัดรวมกัน นำไปแขวนตากกับเชือกให้แห้ง โดยใช้เวลาตาก 3 วัน
หลังจากนั้นก็จะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้านในราคากิโลกรัมละ 50 บาท เพื่อนำไปขายต่อที่สวนจตุจักร โดยคนที่นำไปขายต่อจะแบ่งเป็นมัดเล็กๆมัดละ 10 บาท ขายให้ลูกค้า ที่มาซื้อไปประดับแจกัน แต่ละครั้งที่พ่อค้ามารับซื้อก็ได้ประมาณ 20 กิโลกรัม หรือ ประมาณ 1 พันบาท เดือนหนึ่งพ่อค้าจะมารับซื้อประมาณ 3-4 ครั้ง ก็ได้หลายพันบาทต่อเดือน ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ ในช่วง 1-2 เดือนนี้
ด้านนายสนอง ตะคุณรัมย์ นายก อบต.กระเบื้อง กล่าวว่า อบต.กระเบื้อง มักจะมีการจัดอบรมเกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการทอผ้าไหม การทำเสื่อกก สานตะกร้า และการสานเปลนอนต่างๆ ซึ่งชาวบ้านก็นำไปสานต่อทำเป็นอาชีพได้ และเป็นอาชีพเสริมในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำนา เมื่อชาวบ้านมีงานทำ มีรายได้ มีเงิน ชาวบ้านก็มีความสุข นายก อบต.กระเบื้อง กล่าว