แชร์สนั่นโจ๋วัย 18 ปี ด่ายับตำรวจ สภ.ขุขันธ์ โดนแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
เมื่อวันที 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ได้พากันแชร์คลิปวัยรุ่นคนหนึ่งสวมเสื้อช็อปกำลังด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นที่ สภ.ขุขันธ์ ต.กันทรารมย์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบได้พยายามพูดกับวัยรุ่นคนดังกล่างอย่างใจเย็น แต่ไม่เป็นผลกลับโดนด่าตลอดเวลา และแม้จะเข้าไปอยู่ในห้องขัง แล้ว แต่ก็ยังมไม่ยอมหยุดด่า พร้อมขู่ตะบันหน้าตำรวจ และขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจด้วย
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.25 น. ร.ต.อ.อาภากร โสภา รอง สวป.สภ.ขุขันธ์ พร้อมพวกตามบันทึกการจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัว ชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า
1. ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือ เพราะได้กระทำตามหน้าที่
2. เมื่อเจ้าพนักงานถามชื่อและที่อยู่ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายไม่ยอมบอกหรือแกล้งบอกชื่อ หรือที่อยู่เท็จ
3.ไม่อาจแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบรับ หรือใบแทนใบรับเมื่อเจ้าพนักงานขอตรวจบัตร
สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม ถนนสาธารณะชุมชน บชส.เก่า ถนนท้าวปัญญา หมู่ที่ 6 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุชันธ์ จว.ศรีสะเกษ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 14.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายให้ทราบและควบคุมตัวมาจัดทำบันทึกจับกุม ขณะจับกุมผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหา และสิทธิของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้นแล้ว ชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ร.ต.อ.มนตรี พันธ์คำ รอง สว. (สอบสวน)สภ.ขุขันธ/พนักงานสอบสวน ได้รับตัวผู้ต้องหาไว้แล้ว จึงรับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 421/2564 สอบสวนบุคคลดังกล่าว ทราบชื่อ นายเอ (ขอสงวนชื่อ นามสกุล) อายุ 18 ปี ชาว ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมกับแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทราบดังนี้คือ
1. สิทธิในการพบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว
2. สิทธิในการให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้ในขั้นสอบสวน
3. สิทธิในการได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อญาติได้ตามสมควร
4. สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมือเกิดเจ็บป่วย
นอกจากนั้นยังจัดให้ผู้ต้องหาสามารถติตต่อกับญาติหรือผู้ซึ่งผู้ต้องหาไว้วางใจเพื่อแจ้งให้ทราบถึงการจับกุมและสถานที่ที่ถูกควบคุมได้ในโอกาสแรก ที่ผู้ต้องหามาถึงที่ทำการเข้าใจสิทธิของตนดีแล้วจึงให้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานและส่งตัวผู้ต้องหาให้สิบเวรรับตัวไว้ตรวจค้นร่างกายไม่พบสิ่งของต้องห้าม จึงนำตัวเข้าห้องควบคุมไว้ตามระเบียบต่อไป