ตร.สาธิตยิงแก๊สน้ำตายันไม่เป็นอันตราย ผบช.น. ระบุจำเป็นสลายม็อบ 17 ส.ค.ลดความรุนแรง เปิดคลิปบันทึกเหตุการณ์ยิ่งก่อเหตุ 15 ส.ค. มีบุคคลใช้อาวุธปืนสร้างสถานการณ์
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เข้าร่วมสาธิตการยิงแก๊สน้ำตาที่ตำรวจควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาลใช้ในการควบคุมสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยจำลองการยิงด้วยปืนแก๊สน้ำตาในระยะ 100 เมตร ด้วยแนววิถีโค้งมากกว่า 30 องศา เพื่อให้แก๊สตกไปในพื้นที่เป้าหมายที่จำลองเป็นพื้นที่ผู้ชุมนุม เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยหลังมีการเผยแพร่ข่าวผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ว่าผู้ชุมนุมถูกกระสุนแก๊สน้ำตายิงเข้าที่ใบหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัส
พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้บังคับการควบคุมฝูงชน 1 เปิดเผยว่า มุมที่ทดสอบเป็นมุมที่เจ้าหน้าที่ใช้ยิงโดยปกติในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน แสดงให้เห็นว่าตัวปลอกกระสุนที่เป็นโลหะจะค้างอยู่ในลำกล้องปืน ไม่สามารถลอยไปทำอันตรายกับผู้ชุมนุมได้ ส่วนที่ลอยออกไปมีเพียงตัวกระบอกบรรจุแก๊สน้ำตา ซึ่งทำจากพลาสติกสีน้ำเงินซึ่งสามารถลุกไหม้ได้ด้วยตัวเองและไม่ใช่ชนิดระเบิดเหมือนที่เคยใช้ในการสลายการชุมนุมเมื่อช่วงปี 2551 ดังนั้นชนิดที่ใช้ในปัจจุบันจึงไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน อีกทั้งการยิงแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ เป็นการยิงเพื่อให้ควันไปยับยั้งการคุกคาม ของผู้ชุมนุมไม่มีการยิงใส่ตัวชุมนุมโดยตรง แต่ยอมรับว่าบางครั้งทิศทางลมมีผลต่อวิถีของแก๊สน้ำตา จึงทำให้ผู้ชุมนุมถูกลูกหลงได้ สำหรับปืนยิงแก๊สน้ำตาที่ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้เป็นปืนที่มีลำกล้องขนาด 38 มม. และใช้กับกระสุนแก๊สน้ำตาโดยเฉพาะ อีกทั้งลำกล้องไม่มีเกลียวจึงไม่สามารถใช้คู่กับกระสุนหรือระเบิดชนิดอื่นได
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ระบุว่า เครื่องมือเเละอุปกรณ์ที่ใช้จริงในการสลายการสลายการชุมนุม โดยเป็นไปตามหลักสากล ไม่เป็นอันตรายถึงเเก่ชีวิต พร้อมกล่าวถึงภาพรวมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการสลายการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้า เริ่มชุมนุมตั้งเเต่เวลา 15.00 น.โดยนัดหมายที่เเยกราชประสงค์จากนั้เคเลื่อนไปที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ หลังจากนั้นมีการก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งทางตำรวจเห็นว่าหากไม่ระงับ ก็อาจมีเหตุบานปลายได้ จึงเข้าสลายการชุมนุม จากนั้นผู้ชุมนุมบางส่วน มีการย้ายไปที่เเยกดินเเดง เเละอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางตำรวจพยายามเคลียร์พื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อเร่งเปิดการจราจรให้ประชาชน เเต่หลังจากนั้นปรากฎว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงกลับมาปะทะกับเจ้าหน้าที่อีก เเต่สุดท้ายก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เเละจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย มีการเเจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เเละ พ.ร.บ.โรคติดต่อ
ผบช.น. กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าทางคดี กรณีเด็กอายุ 14 เเละ 15 ปี ถูกยิง ทางตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการ ขณะนี้เริ่มมีความคืบหน้าเเล้ว หากติดตามข่าวสาร ทางตัวผู้บาดเจ็บเเละญาติ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบางช่องไปเเล้ว ว่าอาจมีบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ถือปืนมาก่อเหตุ ซึ่งทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย