"หมอกุ๊บกิ๊บ"ร่ำไห้ขอโทษปมนำวัคซีนไฟเซอร์เหลือทิ้งก้นขวดฉีดพี่สาว (มีคลิป)

2021-08-18 09:33:51

"หมอกุ๊บกิ๊บ"ร่ำไห้ขอโทษปมนำวัคซีนไฟเซอร์เหลือทิ้งก้นขวดฉีดพี่สาว (มีคลิป)

Advertisement

"หมอกุ๊บกิ๊บ"ร่ำไห้ขอโทษปมนำวัคซีนไฟเซอร์เหลือทิ้งก้นขวดฉีดให้พี่สาว  ยันไม่ได้ฉีดให้แม่ กลับลำไม่ลาออกขอสู้ต่อเพื่อชาวนบพิตำ



เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พญ.รายหนึ่ง ใน รพ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พาญาติมาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมนั้น ล่าสุด  พญ.กฤตยาณี พูลเพียร หรือ “หมอกุ๊บกิ๊บ” อายุ 27 ปี แพทย์ที่ตกเป็นข่าว ได้โพสต์คลิปขณะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Gubgib Pulpian  ระบุว่า "ฝากดูคลิปให้จบหน่อยนะคะ ทุกคนบอกให้เงียบ เเต่เมื่อหมอทำผิด ก็ต้องออกมารับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง ออกมาเปิดเผยตัวตนและกล้ายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น หมอขอออกมาพูดอธิบายข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะบางสำนักข่าวนำเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ตอนนั้นบอกเลยว่าคาดคิดไม่ถึงจริงๆ ทำไปเพราะคิดว่าวัคซีนวัคซีนกำลังจะถูกทิ้งไป ขอเก็บเอามาฉีดเถอะ วันนี้ได้รู้แล้วว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปมันผิด ขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง ขอบคุณกำลังใจและคนที่เข้าใจเหตุการณ์ และขอโทษอีกครั้งสำหรับทุกคนที่โกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกุ๊บกิ๊บขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียว #แชร์ได้ค่ะ #งดนำคลิปไปตัดต่อ"

สำหรับคลิปดังกล่าว พญ.กฤตยาณี  ชี้แจงว่า ตามที่มีข่าว พญ.นำญาติมาฉีดไฟเซอร์ ทำให้หลายคนเสียใจ ผิดหวัง โกรธ  ขอชี้แจงดังนี้ ในวันที่ 12 ส.ค. ทางทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรด่านหน้าจะต้องเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคัม จ.นนทบุรี ทาง รพ.จึงได้เบิกวัคซีนไฟเซอร์มา 1 ขวด ทำการฉีดให้กับบุคลากรเป็นโดสที่ 3 จำนวน 6 คน ที่จะเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคัม หลังจากฉีดครบแล้ว พบว่ามีวัคซีนเหลือก้นขวดก็ต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ในความคิดของตนมองว่าน่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กว่าทิ้งถังขยะไป ต่อมาวันที่ 13 ส.ค.ทาง รพ.นบพิตำ จะทำการฉีดวัคซีนให้บุคลากรด่านหน้าจำนวน 66 คน โดยเบิกวัคซีนไฟเซอร์มา 11 ขวด ช่วง 13.00 น.  ตนได้เดินมาที่จุดฉีดวัคซีนถามทีมฉีดวัคซีนว่า มีวัคซีนเหลือก้นขวดบ้างไหม ทีมฉีดวัคซีนก็ตอบว่า บางขวดก็เหลือบางขวดไม่เหลือ โดยวัคซีนที่เหลือโดสที่ 7 ก้นขวดนั้น ไม่มีใครรับรองว่า มีคุณภาพหรือไม่ เขาจะไม่ให้ฉีดให้ใคร เพราะอาจจะไม่ได้คุณภาพ หมอเลยถามว่า ขวดที่เหลือหมอขอได้ไหม เพื่อจะฉีดให้แม่กับสาว จึงโทรไปให้พี่สาวที่ช่วยงานในคลินิกหน้า มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา ให้ขับรถพาแม่มาด้วย โดยบอกกับพี่สาวและแม่ว่ามีวัคซีนก้นขวดที่เขาทิ้งแล้วจะเอาไหม ฉีดไหม พี่สาวบอกว่าเอา วัคซีนอะไรก็ได้ขอให้ได้ฉีด และด้วยความบริสุทธิ์ใจก็เอาวัคซีนก้นขวดที่เหลือทิ้งถังขยะมาฉีดให้พี่สาว จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่แจ้งเรื่องให้ ผอ.รพ.ทราบ ท่าน ผอ.จึงสั่งระงับการฉีดวัคซีนให้บุคคลภายนอก ดังนั้นแม่จึงยังไม่ได้ฉีด ตามที่เป็นข่าวทางสื่อบางสังกัดว่า หมอเบียดบังเอาวัคซีนโด๊สที่ 6 ฉีดให้แม่นั้นไม่เป็นความจริง

พญ.กฤตยาณี กล่าวต่อว่า มันเป็นวัคซีนที่เหลือก้นขวดทิ้งถังขยะจริงๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ก็เห็น บุคลากรด่านหน้าที่ 66 คนทุกคนได้รับวัคซีนครบ ยอมรับว่าหมอให้พี่สาวพาคุณแม่มาด้วย แต่แม่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่อย่างใด เพราะหลังฉีดให้พี่สาวก็มีบุคลากรบางท่าน รายงานให้ ผอ.รพ.นบพิตำว่า มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ของบุคลากรด่านหน้าให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งเขาก็ทำถูกต้องแล้ว จนทาง ผอ.รพ.กำชับไม่ให้ฉีดให้บุคคลภายนอก แต่หมอเองก็น้อยใจว่า เราทำงานสุ่มเสี่ยงตรงนี้มาต่อเนื่อง แต่เราไม่สามารถที่จะเอาวัคซีนก้นขวดทิ้งไปแล้วกลับมาฉีดให้กับแม่และพี่สาวของเราเพื่อให้เขาปลอดภัยได้ เพราะทุกวันที่หมอมาทำงานที่ รพ.นบพิตำ คลุกคลีกับผู้ป่วย รวมทั้งบุคลากรที่ติดเชื้อก็มี และหมอต้องกลับไปนอนกับแม่ กับพี่สาว ที่ผ่านมาหมอเองเป็นคนเสี่ยงและเสียสละอยู่ด่านหน้า แต่หมอไม่สามารถที่จะดูแลปกป้องคนในครอบครัวของตัวเองได้เลย นี่คือความเห็นแก่ตัวของหมอเอง หมอก็โทษประชาชนทุกคนจริงๆ ที่หมอเห็นแก่ตัว มันเป็นประเด็นที่อ่อนไหวจริงๆ” พญ.กฤตยาณี กล่าว

พญ.กฤตยาณี กล่าวทั้งน้ำตาว่า หมอน้อยใจ เสียใจมาก ที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น จึงได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกและกลับไปบ้าน คิดทบทวนตัวเองว่า สิ่งที่หมอทำมันถูกไหม เราชิงลาออกแบบนี้เราได้อะไรกับการลาออก ประกอบกับหมอที่ รพ.นบพิตำ มีน้อยมาก ส่วนหนึ่งต้องไปช่วย รพ.บุษราคัม และยังจะต้องเปิด รพ.สนามนบพิตำ ถ้าหมอออกจะมีหมอไม่เพียงพอ เพราะเป็น รพ.ขนาดเล็ก มีหมอไม่กี่คน หากหมอออกไปอีกคนก็จะไม่มีคนที่จะช่วยงานในส่วนเหล่านี้ ล่าสุดตัดสินใจกลับมาโรงพยาบาลและไปเอาใบลาออกกลับคืนมา หมอจะสู้ต่อเพื่อคนนบพิตำ สู้เพื่อคนไข้ และจรรยาบรรณ แม้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นและถูกโจมตีอย่างหนัก บั่นทอนความรู้สึก บั่นทอนจิตใจตัวหมอเอง จากความเห็นแก่ตัวของหมอที่อยากให้คนที่เรารักคือแม่และพี่สาวได้ปลอดภัย มีชีวิตอยู่กับเราไปนานๆ หมอกราบขออภัยด้วย และยืนยันว่าหมอไม่ได้ไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้า เพราะทุกคนเป็นคนที่หมอรัก หมอรู้จัก เป็นเพื่อนร่วมหมอ ซึ่งหมอไม่มีทางที่จะแย่งของเขามาอย่างแน่นอน หมอขอโทษ ที่หมอคิดน้อยไป ที่เราไปหยิบวัคซีนที่เขาทิ้งถังขยะ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิด และไม่ดี


ขอบคุณเฟซบุ๊ก Gubgib Pulpian