คณบดีศิริราชระบุศึกโควิด-19 ไม่รู้ปลายทางอยู่ตรงไหน ชี้คนฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อพบปริมาณเชื้อในจมูก และ ลำคอ ไม่ต่างจากคนไม่ฉีดวัคซีน
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ตอนหนึ่งว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาไม่เพียงแพร่ระบาดได้เร็ว โดยเร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา ประมาณ 60% มีหลักฐานชัดเจนว่าก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงและอันตรายมากกว่าสายพันธุ์เดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่มีอาการรุนแรงในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยลง โดยเป็นผลจากหลายปัจจัย ไม่แปลกใจหลายประเทศคนไข้อาการรุนแรงเราเจอกลุ่มคนอายุน้อยลง โดยเฉพาะโรคอ้วน
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบไม่ว่าชนิดใด ยังมีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ รายงานจากสหรัฐอเมริการะบุว่าความสามารถในการแพร่เชื้อไม่แตกต่างจากผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่อาการมักไม่รุนแรง รายงานจากมหาวิทยาลัย Wisconsin พบว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ยังสามารถพบมีปริมาณไวรัสในจมูกและคอ ไม่แตกต่างไปจากผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หลายประเทศพบการติดเชื้อในเด็กมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ในออสเตรเลียพบถึง 25% สัดส่วนของประชากรที่ได้รับวัคซีนที่มากพอ จะมีส่วนสำคัญในการลดการแพร่ระบาดและอัตราการเสียชีวิต แต่ไม่ควรเป็นข้อบ่งชี้ในการยกเลิกหรือผ่อนคลายการระวังตนเอง ควรใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นทำความสะอาดมือ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมากในพื้นที่ที่จำกัด การแพร่ระบาดในกลุ่มคนจำนวนมาก อาจนำสู่การเกิดการกลายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็ว จะทดแทนสายพันธุ์เดิมหรือสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดช้ากว่า
"ศึกโควิด-19 เราไม่รู้จริงๆว่าปลายทางอยู่ตรงไหน หวังว่าเทคโนโลยีจะเอาชนะกับไวรัสที่กลายพันธุ์ แต่ทั้งหมดประชาคมโลกต้องช่วยกัน ตราบใดปล่อยให้มีการระบาดเยอะ ๆ มันมีโอกาจะมีการกลายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้อยู่เรื่อยๆ" คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าว