ชาวบ้านพบไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ในสระน้ำกลางทุ่งนา คาดเป็นไม้พะยูงต้นแฝดที่ถูกตัดจากในโรงเรียนคำไฮวิทยา ด้านผู้การฯ กาฬสินธุ์ส่งชุดสืบสวนไล่ล่าตัวผู้ร่วมขบวนการมอดไม้ พร้อมสอบสวนเชิงลึก หลังพบพื้นที่นาและสระน้ำเป็นของตำรวจ
จากกรณีคนร้ายย้อนกลับมาลักลอบตัดต้นพะยูงแฝดในโรงเรียนคำไฮวิทยา หมู่ 8 ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ได้ตัดต้นพะยูงที่อยู่ติดกันไปแล้ว 1 ต้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งไล่ล่าตัวคนร้าย เนื่องจากลงมือโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.2560 พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท. สมภาร แสนคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองกุงศรี สนธิกำลังกับทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย อ.หนองกุงศรี เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.6 (นาคำน้อย) และหน่วยกู้ภัยกุดหว้า จุดหนองกุงศรี เข้าตรวจสอบกระท่อมนา บริเวณด้านทิศตะวันออก บ้านคำไฮ หมู่ที่ 11 ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบร่องการคล้ายการแปรรูปไม้พะยูงอยู่บริเวณดังกล่าว
โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยเศษไม้ เศษขี้เลื่อย รอยเผา และขวดน้ำมันเครื่องที่เหลืออยู่ เพื่อผสมเป็นเชื้อเพลิงใช้เลื่อยไม้ และพบไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ในสระน้ำข้างกระท่อม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำรถมาลากขึ้นมาพบเป็นไม้พะยูงถูกตัดเป็นท่อนยาว 2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 30-50 ซม.จำนวน 7 ท่อน นอกจากนี้ยังพบไม้พะยูงแปรรูปซุกซ่อนอยู่ข้างคันนา โดยเอาฟางมาปิดไว้อีก จำนวน 2 ท่อน รวมทั้งหมด 9 ท่อน ซึ่งไม่มีผู้ใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นไม้พะยูงที่ถูกตัดมาจากโรงเรียนคำไฮวิทยา จึงยึดไว้ตรวจสอบ
ทั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านเบื้องต้นทราบว่าที่ดินและสระน้ำดังกล่าวเป็นของตำรวจคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้พะยูงแล้วนำมาแปรรูปบริเวณนี้หรือไม่ และจะเร่งติดตามตัวคนร้ายและขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในครั้งนี้ต่อไป
พ.ต.ท. สมภาร แสนคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี เปิดเผยว่า สำหรับไม้พะยูงดังกล่าว คาดว่าอาจจะเป็นไม้ที่ถูกตัดจากต้นพะยูงแฝดในโรงเรียนที่โดนตัดโรงเรียนคำไฮวิทยา เมื่อคืนวันที่ 29-30 พ.ย. 2560 และคืนวันที่ 1-2 ธ.ค. 2560 เนื่องจากจุดตัดต้นไม้พะยูงและจุดพบไม้อยู่ห่างกันเพียง 1 กม. อีกทั้งจากการตรวจสอบลักษณะท่อนไม้นั้นถูกตัดมาใหม่ๆ และมีขนาดใกล้เคียงกับต้นไม้พะยูงที่โดนตัดจากโรงเรียนคำไฮวิทยา ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าวน่าจะร่วมกันทำเป็นกระบวนการ เพื่อนำไม้พะยูงไปจำหน่ายต่างประเทศ
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทธา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผกก.สภ.หนองกุงศรี พร้อมชุดสืบสวนภ.จว.กาฬสินธุ์เข้าไปติดตามตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากการสอบสวนเบื้องต้นพื้นที่ที่พบไม้พะยูงเป็นของตำรวจ จึงต้องมีการสืบสวนในเชิงลึกว่าใช่หรือไม่ และมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ โดยให้รายงานผลความคืบหน้าภายใน 3 วัน พร้อมทั้งได้กำชับให้เร่งติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า ร.ท.เดชา ประสมศรี หัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย อ.หนองกุงศรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 นำกำลังเข้าค้นบ้านผู้ต้องสงสัยหลังหนึ่งใน ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้ต้องสงสัยให้การปฏิเสธ และภายในบ้านไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ได้นำไม้พะยูง ดังกล่าวมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองกุงศรี เพื่อทำการตรวจสอบและหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป