ศาลแพ่งนัดฟังคำสั่ง 6 ส.ค. ปมสื่อยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดฉบับที่ 29
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแพ่งได้ออกเอกสารแจกสื่อมวลชนระบุตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะว่าในวันนี้เวลา 11.00น. บริษัท รีพอร์ตเตอร์โปรดักชั่น จำกัด กับพวกรวม 12 คน ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคดีต่อศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่พ 3618/2564 ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 29 ) ลงวันที่ 29 ก.ค. 2564 พร้อมยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉินโดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวและห้ามมิให้นำมาตรการคำสั่งหรือการกระทำใด ๆ ที่สั่งการตามประกาศดังกล่าวมาใช้กับฝ่ายโจทก์ประชาชนและสื่อมวลชนไปจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีนี้นั้น
บัดนี้ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ 3618/2564 ได้ออกนั่งพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า “ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีทางปกครองตามมาตรา 16 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 อันทำให้การฟ้องคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 194 บัญญัติว่า ศาลยุติธรรมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวงเว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น
กรณีจึงเห็นได้ว่าศาลยุติธรรมเป็นศาลที่มีเขตอำนาจทั่วไปคดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลนี้ให้รับคำฟ้องสำเนาให้จำเลยให้โจทก์ทั้งสิบสองนำส่งภายใน 7 วันนับ แต่วันนี้ส่งไม่ได้ให้แถลงเพื่อดำเนินการต่อไปภายใน 15 วันนับแต่ส่งไม่ได้หากไม่ปฏิบัติถือว่าทิ้งฟ้อง แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (Coronavirus disease: COVID-19) ทวีความรุนแรงในชั้นนี้จึงไม่อาจกำหนดวันนัดได้ หากสถานการณ์คลี่คลายศาลจะแจ้งให้โจทก์ทั้ง12 มากำหนดวันนัดเพื่อส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
สำหรับคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษานั้นศาลทำการไต่สวนแล้วเสร็จโดยเพื่อให้การพิจารณาสั่งคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีพิพากษาเป็นไปด้วยความรอบคอบจึงเห็นควรให้นัดฟังคำสั่งวันที่ 6 ส.ค. 2564 เวลา 13.30น.