สธ.คาดการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดสีเขียวรายงานต่ำกว่าความเป็นจริง 6 เท่า เหลืองต่ำกว่าความเป็นจริง 3 เท่า หากมาตรการล็อกดาวน์ได้ผล ร่วมกับฉีดวัคชีนในผู้สูงอายุ ไม่เกิน 2 เดือน คงความชุกของการใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1,500 รายต่อวัน อุบัติการณ์การเสียชีวิตไม่เกิน 200 รายต่อวัน ไปจนถึงเดือน ธ.ค.
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์เฟซบุ๊กการ คาดการณ์สถานการณ์การระบาด COVID-19 ของประเทศไทย ระหว่าง ส.ค. - ธ.ค. 2564 จัดทำโดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข นำเสนอเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ระบุว่า ผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างรักษา ณ 25 ก.ค. 64
เขียว 67,501 คาดการณ์ว่ามีการรายงานต่ำกว่าความจริงประมาณ 6 เท่า ผู้ติดเชื้อจริงจากการคาดการณ์ 405,006
เหลือง 85,937 คาดการณ์ว่ามีการรายงานต่ำกว่าความจริงประมาณ 3 เท่า ผู้ติดเชื้อจริงจากการคาดการณ์ 257,811
แดง ไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ 4,151 คาดการณ์ว่ามีการรายงานต่ำกว่าความจริงประมาณ 1 เท่า ผู้ติดเชื้อจริงจากการคาดการณ์ 4,151
แดง ใส่ท่อช่วยหายใจ 961 คาดการณ์ว่ามีการรายงานต่ำกว่าความจริงประมาณ 1 เท่า ผู้ติดเชื้อจริงจากการคาดการณ์ 961
สรุป
-นโยบายล็อกดาวน์มีผลลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตในระยะสั้นไม่มากนัก แต่ส่งผลลดจำนวนผู้ป่วยในระยะยาว
-หากล็อกดาวน์ 1 เดือน (เริ่ม 19 ก.ค. 64) คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงต้นเดือน ต.ต. และหากล็อกดาวน์ 2 เดือน คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงปลายเดือน พ.ย.
-หากมาตรการล็อกดาวน์ได้ผลมากขึ้น เช่น จากที่ช่วยลดค่า R ได้ 20% เป็น 25% น่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ขนาดของการระบาดโดยรวมไม่เปลี่ยนไปมากนัก
-หากมาตรการล็อกดาวน์ได้ผล และร่วมกับมาตรการวัคชีนในผู้สูงอายุได้ผลดี และดำเนินการได้รวดเร็ว ในเวลาไม่เกิน 2 เดือน น่าจะช่วยคงให้ความชุกของการใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1,500 รายต่อวัน และ อุบัติการณ์การเสียชีวิตไม่เกิน 200 รายต่อวัน ไปจนถึงเดือน ธ.ค.
