กบฏฮูตีและกองกำลังของอดีตประธานาธิบดีซาเลห์ ของเยเมน ซึ่งเป็นพันธมิตรกัน ปะทะกันเองหลักแตกคอกันอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิต 40-60 คน ขณะที่ นายซาเลห์ ประกาศพร้อมเจรจากับซาอุฯยุติความขัดแย้ง
เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างนักรบกบฏฮูตี และกองกำลังที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ของเยเมน ในกรุงซานา เมืองหลวงเยเมนเมื่อวานนี้ (เสาร์) ซึ่งเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางการเมืองกันอย่างสันติ โดยความขัดแย้งดังกล่าวเริ่มต้นมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนนายซาเลห์ ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้นักรบกบฏฮูตี เข้าไปอยู่ในมัสยิดซาเลห์ บริเวณจตุรัสซาบีน นอกกรุงซานา เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รำลึกครบรอบวันประสูติของพระศาสดามูฮัมหมัด
การต่อสู้กัน ยืดเยื้อมาถึงเมื่อวานนี้ และถนนสายหลักทุกสายในกรุงซานาและปริมณฑลเป็นอัมพาต ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ กบฏฮูตีและกองกำลังของนายซาเลห์ เคยยึดครองร่วมกันตั้งแต่ปี 2557 ทำให้ธุรกิจการค้าทั้งหมดและการจราจรหยุดชะงักมาตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แหล่งข่าวบอกว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 40-60 คน ในการปะทะกันตามท้องถนน ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ใกล้กับบ้านพักของนายซาเลห์ และพลจัตวา ทาเรค โมฮัมเหม็ด ซาเลห์ หลานชายนายซาเลห์ ในเขตฮัดดา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงซานา
ขณะเดียวกัน นายซาเลห์ แถลงว่า เขาเปิดกว้างที่จะเจรจากับพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งกำลังต่อสู้กับกองกำลังของเขามานานหลายปี โดยนายซาเลห์ กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวานนี้ ว่า เขาจะพร้อมพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หากกองกำลังพันธมิตร ยกเลิกการปิดล้อมพื้นที่ทางตอนเหนือของเยเมน และยุติการโจมตี ซึ่งกองกำลังพันธมิตรก็ชื่นชมข้อเสนอนี้ แต่กบฏฮูตี พันธมิตรของเขา กลับกล่าวหาเขาว่า ก่อการปฏิวัติ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเกิดความแตกแยกครั้งใหญ่ระหว่างกบฏฮูตีกับฝ่ายนายซาเลห์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสงครามกลางเมืองในเยเมนด้วย