"ศุภชัย"ลั่นแก้ รธน. "ฉบับกินได้-แก้จน"

2021-06-23 15:43:52

"ศุภชัย"ลั่นแก้ รธน. "ฉบับกินได้-แก้จน"

Advertisement

"ศุภชัย"ลั่นแก้ รธน. "ฉบับกินได้"  แก้ความยากจนอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 12.00 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวชี้แจงหลักการและเหตุผลร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมพรรคภูมิใจไทยว่า ร่างแรกของพรรคคือเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเพิ่มเติมหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ คือเพิ่มความใน มาตรา 55/1 ที่ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพตามที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีรัฐธรรมนูญที่กินได้ ทั้งที่สิทธิบางประการเป็นหน้าที่ของรัฐควรดำเนินการให้เกิดขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง รวมถึงตอนนี้ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งต้องได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษมีจำนวนมากขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐต้องทำให้ประชาชนมีรายได้พื้นฐาน โดยกำหนดเป็นหน้าที่ของรัฐตาม หมวด 5

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า เราจึงขอแก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้ มาตรา 55 ให้รัฐต้องจัดให้ประชาชนได้รับรายได้พื้นฐานถ้วนหน้าอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างทั่วถึง โดยประชาชนไม่ต้องเรียกร้อง สาระในหมวดนี้รัฐต้องทำให้กับทุกคน เช่น การศึกษาภาคบังคับโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย การบริการสาธารณสุขหรือหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่รัฐต้องปฏิบัติ ทั้งนี้ธนาคารโลกประเมินว่าในปี 2561 คนไทยประมาณ 6.7 ล้านคนหรือ 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากรมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนคือ 2,763 บาทต่อคนต่อปี ที่ผ่านมารัฐยังไม่มีการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม เพราะการกู้มาแล้วไปแจกไม่มีความมั่นคงและยั่งยืน อย่างโครงการต่างๆของรัฐบาลเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเห็นว่าการแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างแท้จริงคือการเสนอมาตรา 55/1 โดยค่อยๆทำและค่อยๆไปแบบเป็นระบบ เพื่อก้าวข้ามความยากจน

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ส่วนร่างที่สองคือเรื่องยุทธศาสตร์ชาติที่มีความจำเป็นต้องมี แต่ของประเทศไทยที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและออกกฎหมายกำหนดว่าต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าไม่เหมาะสม จึงเห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 65 เพราะเป็นการเหนี่ยวรั้งการพัฒนา โดยกำหนดให้เรื่องยุทธศาสตร์สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขเพิ่มเติมได้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้  ส่วนร่างสุดท้ายคือได้เสนอเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ คือประเด็นการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 159 ที่มาของนายกรัฐมนตรี และยกเลิกมาตรา 272 อำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีนั้น เรามีความเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ หรือผู้ที่เลือกไม่มีความเชื่อมโยงกับอำนาจของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสิ่งที่เราเสนอเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่ทำเพื่อนักการเมืองหรือพรรคการเมือง.