"ชัยธวัช"ติง "ชวน" ด่วนตีความปัดตกญัตติแก้ ม. 256 จี้สภาฯผ่านร่าง พ.ร.บ.ประชามติวาระ 2-3
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกรณีที่ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรม (ส.ส.ร.) ที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย มีผลเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 และเป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตรา ประธานรัฐสภาจึงไม่สามารถบรรจุร่างดังกล่าวเข้าระเบียบวาระการประชุมของรัฐสภาเพื่อพิจารณาได้นั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่า แม้เราจะไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาการแก้ไข ม. 256 ตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้จำกัดอำนาจ ส.ส.ร.ห้ามแตะหมวด 1 และหมวด 2 ก็ตาม แต่เราก็เห็นว่า รัฐสภามีอำนาจที่จะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่เพื่อไทยเสนอ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเพียงแต่ว่าหากจะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ต้องให้ประชาชนได้ลงประชามติเห็นชอบเสียก่อน โดยไม่ได้ระบุว่าต้องทำในขั้นตอนใด และไม่ได้บอกว่ารัฐสภาไม่สามารถพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้มี ส.ส.ร.ได้ ดังนั้นนี่เป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่ไปด่วนตีความเสียเองว่าร่างดังกล่าวไม่สามารถบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมของรัฐสภาได้ ทั้งที่เป็นการเสนอญัตติที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้ว หากจะหาข้อยุติว่าต้องไปจัดทำประชามติก่อนจะพิจารณาวาระที่ 1 ได้ ก็ควรเป็นมติของรัฐสภา ไม่ใช่ความเห็นของประธานรัฐสภา
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ในเมื่อร่างรัฐธรรมนูญแก้ไข ม.256 ของพรรคเพื่อไทยถูกแขวนหรือคว่ำไปแล้วตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา พรรคก้าวไกลเสนอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรช่วยกันผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติผ่านวาระ 2 และ 3 ให้ได้ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว. ต้องไม่เล่นเกมตีรวนเตะถ่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ และทันทีที่ พ.ร.บ.ประชามติประกาศใช้ พรรคก้าวไกลจะเสนอญัตติให้รัฐสภาพิจารณามีมติให้ ครม.จัดทำประชามติถามประชาชนว่าเห็นชอบหรือไม่ที่จะตั้ง ส.ส.ร. เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนที่รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งทั้ง ส.ว. และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคยอ้างมาตลอดว่าต้องถามประชาชนก่อน จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เห็นชอบให้มีประชามติ นี่คือแนวทางหลักที่พรรคการเมืองจะต้องร่วมมือกับประชาชนเพื่อยุติรัฐธรรมนูญระบอบ คสช. ให้ได้