"อนุทิน"ปลื้มยอดฉีดวัคซีนโควิดวันแรกพุ่งเกิน 3 แสนโดส ชี้ที่ไหนเลื่อนต้องสอบหาสาเหตุ จ่อลงนาสั่งซื้อ "ไฟเซอร์-จอห์นสัน"สัปดาห์นี้ 25 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 วันแรก ได้รับรายงานว่าเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้ไม่ต้องไปดูว่าทีไหนฉีดได้มากได้น้อย แต่ให้ฉีดสอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับไป ซึ่งมีแผนการจัดสรรและการฉีดชัดเจน ส่วนที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการเสนอช่วยเหลือวัคซีนไฟเซอร์ให้ประเทศไทยนั้นยังไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเราต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน ซึ่งความคืบหน้ากรเจรจราจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมนั้น ในส่วนของไฟเซอร์ 20 ล้านโดส และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส รวม 25 ล้านโดส อยู่ระหว่างรอลงนามบันทึกการสั่งซื้อวัคซีน ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากทั้ง 2 บริษัทได้ขอเลื่อนมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว
เมื่อถามว่ามีรพ.หลายแห่ง มีการเลื่อนฉีดวัคซีนในวันที่ 8 มิ.ย. หรือวันอื่นๆ ออกไป นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ทราบ ตอนนี้ยังไม่มีการเลื่อนใดๆ ทั้งสิ้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้นโยบายลงไปชัดเจน มีสูตร ในการจัดสรรที่ชัดเจน และให้พื้นที่บริหารการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง หากที่ไหนเลื่อนก็ต้องไปตรวจสอบว่าสาเหตุเป็นเพราอะไร แต่ไม่ได้บอกว่าจะเป็นการลงโทษ เพียงแต่ต้องอธิบายให้ได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเป็นเพราะเราส่งวัคซีนไปน้อยไม่เพียงพอต่อการฉีดอย่างต่อเนื่องหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าไม่เพียงพอ แต่เรามีสูตรการจัดสรรที่ชัดเจน จะบอกไม่พอได้อย่างไร บางคนอาจจะเก็บเผื่อไว้เพื่อรอฉีดเข็ม 2
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีที่เรา เปิดให้บริการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา ณ ขณะนี้ สรุปข้อมูลการฉีดวัคซีนเมื่อเวลา 16.00 น. มี การดำเนินงานฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งสิ้น 306,580 โดส โดยประมาณ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการรวมข้อมูลการฉีดวัคซีนจากทางกรุงเทพฯ เข้ามาแต่อย่างใดเนื่องจากข้อมูลจากทั่วประเทศจะค่อยๆไหลเข้ามาในระบบ
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า สำหรับการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย อย.ได้รับข้อมูลล่าสุดคาดว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะนำเอกสารมายื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับการนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยภายใต้ภาวะฉุกเฉิน ซึ่งวัคซีนดังกล่าวสามารถฉีดได้ในผู้ที่อายุ 12 ปีขึ้นไป ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการลงนามบันทึกการสั่งซื้อวัคซีน หลังจากนั้น บริษัทก็จะนำเอกสารมายื่นขอทะเบียนที่ อย. ซึ่งคิดว่าเอกสารทุกอย่างไว้ครบหมดแล้ว หากเรียบร้อยดี อย. สามารถอนุมัติได้ภายใน 1 เดือน