รมว.ดีอีเอสเผยศาลมีคำสั่งปิด 8 บัญชีโซเชียล (มีคลิป)

2021-06-02 10:41:16

รมว.ดีอีเอสเผยศาลมีคำสั่งปิด 8 บัญชีโซเชียล (มีคลิป)

Advertisement

รมว.ดีอีเอสเผยศาลมีคำสั่งปิด 8 บัญชีโซเชียลมีเดีย ทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้ข้อมูลเท็จทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้ให้บริการมารับทราบคำสั่งศาลที่มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ในบัญชีผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และรหัสประจำตัวผู้ใช้บริการเฟซบุ๊ก (Facebook ID) และข้อมูลหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP ADDRESS) ที่มีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้บริการเฟซบุ๊ก จำนวน 8 บัญชี ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่ 1. Pavin Chachavalpongpun 2. Andrew MacGregor Marshall 3. รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง 4. Suda Rangkupan 5. ป้าหนิง DK 6. Aum Neko 7. KTUK – คนไทยยูเค และ 8. Pixel HELPER เนื่องจากที่ผ่านมามีการทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้ข้อมูลเท็จมาในระบบทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน 

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า กระทรวงยังได้ทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการเกี่ยวกับประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง หลักเกณฑ์ ระยะเวลา และวิธีการปฏิบัติสำหรับการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ให้บริการ พ.ศ. 2560 และประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง ขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูล คอมพิวเตอร์และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ซึ่งกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องระงับการแพร่หลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 14 (2) (3) แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามคำสั่งศาลโดยรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากมีเหตุล่าช้าก็ต้องดำเนินการภายใน 24 ชม. พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำว่าในการโพสต์ข้อมูลต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและไม่กระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงให้ความสำคัญและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการในการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ และปฏิบัติตามกฎหมายด้วยดี

“หากไม่ปฏิบัติตามจะเข้าข่ายการกระทำความผิด ตามมาตรา 15 ผู้ให้บริการผู้ใดให้ความร่วมมือ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทําความผิด ตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิด ตามมาตรา 14 ให้รัฐมนตรีออกประกาศกําหนดขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทําให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนําข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ถ้าผู้ให้บริการพิสูจน์ได้ว่าตนได้ปฏิบัติตามประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามวรรคสอง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ” นายชัยวุฒิ กล่าว