"ชวน"ระบุ ตร.รัฐสภาไม่ได้สมัครใจขอโทษปมมีเรื่องคนติดตาม "ธรรมนัส" พร้อมให้กำลังใจปฏิบัติหน้าที่ อย่าไปกลัวผู้ติดตามนักการเมือง
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งระหว่างตำรวจรัฐสภาและผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้เชิญตำรวจประจำสภามาพูดคุยเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เวลา 22.00 น. เพื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ซึ่งเขาเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับผู้ติดตามรัฐมนตรี ซึ่งมีสุภาพสตรีคนหนึ่งไม่มีบัตร จึงขอตรวจบัตร และสุภาพสตรีบอกว่าบัตรอยู่ที่รถ ส่วนผู้ติดตามอีก 2 คน ทางตำรวจรัฐสภาได้บอกให้ไปขึ้นอีกทางหนึ่งที่ไม่ใช่ทางที่ส.ส.ขึ้น จึงเป็นที่มาของปัญหาที่เกิดจากการพูดเสียงดัง และมีผู้ใหญ่ในสภาฯแนะนำว่าให้ไปขอโทษ แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ไปฟังรายละเอียดกับเจ้าตัวจะดีกว่า
นายชวน กล่าวต่อว่า ในส่วนของตนจะได้ให้เลขาธิการสภาฯ สอบสวนข้อมูลเอาไว้ เพื่อใช้เป็นแนวทางให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน เขาจะได้มีกำลังใจในการทำงาน เดี๋ยวจะหวาดกลัวและไม่กล้าปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นมาตรการที่เราขอความร่วมมือ แต่ภาพรวมโดยทั่วไปส.ส.และบุคคลทั่วไปที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯเกือบทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกนำเชื้อเข้ามา จึงมีการควบคุมผู้ที่ติดตามส.ส. แต่ในกรณีนี้ตำรวจสภาฯได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งได้บอกกับผู้ติดตามและรัฐมนตรีว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ประธานสภาฯสั่ง
นายชวน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้ให้กำลังใจและให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดอย่างนี้ต่อไป เพราะเป็นวิธีเดียวที่สามารถป้องกันไม่ให้คนที่ติดเชื้อภายนอกมาแพร่เชื้อในสภาได้ ถ้าสามารถทำตามมาตรการได้ก็จะทำให้การทำงานใน 120 วันเป็นไปได้ด้วยดี เพราะหากมีการติดเชื้อขึ้นมาก็จะทำให้ยุ่งยาก จึงต้องดูแลเรื่องนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นจุดอ่อนของคนไทย เรื่องวินัยเคารพกฎเกณฑ์ ไม่ใช่เฉพาะในสภา จึงอยากให้สภาเป็นแบบอย่างเคารพกฎเกณฑ์กติกา เพราะตนเองเป็นฝ่ายนิติบัญญัติออกกฎหมายบังคับคนทั้งประเทศ
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าให้ตำรวจรัฐสภาไปกราบขอโทษ มีการสอบถามข้อมูลตรงนี้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาของตำรวจสภาแนะนำให้ไปขอโทษ ซึ่งเจ้าตัวเขาก็ไม่ได้สมัครใจแต่เพราะไม่อยากให้มีเรื่องกับส.ส. แต่เท่าที่ฟังจากที่เขาเล่า ตำรวจรัฐสภาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร แค่เสียงดังเหมือนเช่นในสภาก็มีส.ส.บางคนที่เสียงดัง แต่ไม่ได้ดังแบบก้าวร้าว
“ผมก็เตือนเสมอว่าอย่าไปกลัวผู้ติดตาม ซึ่งตัวนักการเมืองเอง ถ้าทำอะไรบกพร่องก็กระทบต่อประชาชนในเขตเลือกตั้งของเขา แต่ว่าผู้ติดตามไม่ค่อยรู้เรื่อง บางทีไปทำอะไรที่เกินเลย มีการแสดงวาจา เช่น กรณีฉีดวัคซีนมีบางคนไปแสดงวาจาและมารยาทที่ไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาล” นายชวน กล่าว