"ศิริราช"เปิดผลวิจัยหลังฉีดวัคซีน "แอสตร้าเซนเนก้า" เข็มที่หนึ่ง และ "ซิโนแวค" เข็มที่สอง ภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่าผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 วัคชื่นทั้งสองชนิดน่าจะป้องกันโรคโควิด-19 ได้ดี
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ศูนย์วิจัยคลินิกคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผย โครงการวิจัยการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยหลังได้รับวัคซีน COVID-19 ในบุคลากรการแพทย์ภายในโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร โดย รศ.พญ.ณสิกาญจน์ อังคศกวินัย, ผศ.คร.นพ.จตุรงค์ เสวตานนท์, ศ.เกียรติคุณ ดร.โกวิท พัฒนาปัญญาสัตย์, รศ.นพ.รุจิภาส สิริจตุภัทร, รศ.นพ. วินัย รัตนสุวรรณ, ผศ.พญ.อรศรี วิทวัสมงคล, ผศ.ดร.พญ.สุวิมล นิยมในธรรม, ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ
ผลการวิจัยเบื้องต้น มีดังนี้
-หลัง AstraZeneca เข็มที่ 1 เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ พบว่าอาสาสมัครทุกคนมีภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่ากับผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
-หลัง Sinovac เข็มที่ 1 พบว่า 75% ของกลุ่ม มีภูมิคุ้มกันที่สูงเทียบเท่ากับผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
-หลัง Sinovac เข็มที่ 2 พบว่าทุกคน (100%) มีภูมิคุ้มกันในระดับสูงเทียบเท่ากับผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
-แสดงให้เห็นว่าหลังฉีด AstraZeneca เข็มที่หนึ่งและSinovac เข็มที่สอง ภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่าผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19
-แปลผลได้ว่าวัคชื่นทั้งสองชนิดน่าจะป้องกัน โรคโควิด-19 ได้ดี
-75% ของอาสาสมัครที่ได้วัคซีนจะมีอาการไม่พึงประสงค์ โดยมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีไข้ ปวดศีรษะ อาการดังกล่าวสามารถหายได้เอง
-กลุ่มที่ฉีด AstraZeneca พบอาการไม่พึงประสงค์ค่อนข้างมากกว่ากลุ่มที่ฉีด Sinovacโดยเฉพาะในคนอายุน้อย (น้อยกว่า 30 ปี)
- ขณะนี้กำลังตรวจผลของภูมิต่อสายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น สายพันธุ์อังกฤษ แอฟริกา และอินเดีย ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งหากทราบผลจะแจ้งเป็นลำดับถัดไป