พิชัย" ติงกู้ 7 แสนล้านทำหนี้พุ่ง

2021-05-20 11:50:41

พิชัย" ติงกู้ 7 แสนล้านทำหนี้พุ่ง

Advertisement

"พิชัย" ติงกู้เพิ่ม 7 แสนล้านทำหนี้พุ่ง ตรวจสอบไม่ได้ ใช้เงินมากแต่หาเงินไม่เป็น แนะปรับลดงบประมาณลดการกู้ 

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)  ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า รู้สึกประหลาดใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ครม. ได้อนุมัติ พ.ร.ก. กู้เงิน 7 แสนล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยเป็นวาระจร และไม่ได้ให้รายละเอียด เหมือนมุบมิบทำกัน ทั้งที่เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และควรจะต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนได้ทราบก่อน เพราะก่อนหน้านี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คลัง เพิ่งจะยืนยันในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้เองว่า ยังมีเงินเหลือ 3.8 แสนล้านบาท จากวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะเยียวยาประชาชนครั้งนี้โดยไม่ต้องกู้เพิ่ม แต่แล้วกลับเสนอ ครม. กู้เพิ่มถึง 7 แสนล้านบาท ทำให้สงสัยถึงความโปร่งใส แถมยังเสนอเป็นวาระจร เอกสารลับมาก แล้วยังเก็บเอกสารกลับทันที อีกทั้งยังไม่มีการแถลงข่าว ไม่มีรายละเอียด จึงทำให้ยิ่งน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น

นายพิชัย กล่าวต่อว่า อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงว่า การใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทที่ผ่านมา เพื่อเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงสาธารณสุข มีรายละเอียดอย่างไร ทำไมถึงได้ใช้หมดแล้ว และทำไมใช้แล้วถึงแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เศรษฐกิจกลับย่ำแย่ลงอีก นอกจากนี้ตามที่บอกว่าใช้เงินเพื่อสาธารณสุข 45,000 ล้านบาท เหตุใดจึงไม่มีการจัดซื้อวัคซีนให้เพียงพอ และทำไมถึงไม่มีวัคซีนหลายยี่ห้อเป็นทางเลือก ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่รัฐบาลกลับบริหารล้มเหลว แสดงถึงความไร้ประสิทธิภาพในการใช้เงิน นอกจากนี้มีการนำงบไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจากข้อมูล ได้มีการนำไปใช้ในโครงการชื่อแปลกๆเช่น โครงการเลี้ยงปลาดุก โครงการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี ซึ่งแม้อาจจะเป็นประโยชน์แต่ไม่มีทางที่จะฟื้นเศรษฐกิจไทยที่กำลังย่ำแย่หนักได้เลย เหมือนเสียเงินฟรี ดังนั้นจึงอยากให้มีการตรวจสอบการใช้เงิน 1 ล้านล้านนี้ให้ละเอียดเพื่อความโปร่งใส ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเงินกู้นอกงบประมาณทั้ง 1 ล้านล้านบาท และที่จะกู้ใหม่อีก 7 แสนล้าน จะตรวจสอบการใช้จ่ายได้ยากเพราะไม่มีกรอบการใช้เงินที่ชัดเจน ไม่เหมือนการใช้เงินงบประมาณที่มีรายละเอียดและกรอบการใช้ชัดเจน ซึ่งจะมีโอกาสที่จะเกิดการทุจริตได้ อีกทั้งยังจะทำให้หนี้สาธารณะของประเทศพุ่งสูงมาก

"การกู้เงินเพิ่มอีกถึง 7 แสนล้านบาทจะยิ่งทำให้หนี้สาธารณะพุ่งทะลุเกิน 9 ล้านล้านบาท และหนี้จะทะลุเกิน 60 เปอร์เซ็สต์ ของจีดีพี เพราะการเก็บรายได้ในปีนี้จะขาดมากกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้สถานะทางการคลังของไทยย่ำแย่ลงไปอีก อีกทั้งในอนาคตรัฐบาลจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ พิสูจน์แล้วว่าใช้เงินมาก แต่หาเงินไม่เป็น การจัดเก็บรายได้พลาดเป้ามาทุกปี ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นตลอด และปัจจุบันการเก็บรายได้คิดเป็นแค่ 15เปอร์เซ็สต์ ของจีดีพีเท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลจะไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายหนี้ได้ หนี้ของประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ แต่ประเทศไม่ได้พัฒนาเลย จริงอยู่แม้การช่วยเหลือประชาชนในยามลำบากเป็นเรื่องที่จำเป็นแต่ก็ควรจะตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และไม่อยากให้เป็นช่องทางของการทุจริตคอรัปชั่น การที่รัฐบาลหาเงินไม่เป็นและเก็บรายได้ขาดมาตลอดทำให้รัฐบาลต้องลดงบประมาณลงในปี 2565 โดยลดลงถึง 1.85 แสนล้าน ซึ่งแสดงถึงความเสื่อมถอยของประเทศ แต่รัฐบาลกลับซิกแซกออก พ.ร.บ. กู้เงิน 7 แสนล้านบาทมาใช้แทน ซึ่งตรวจสอบยาก เปิดโอกาสให้มีการคอร์รัปชัน อีกทั้งยังเพิ่มหนี้สาธารณะอย่างมาก อย่างไรก็ดี ก่อนที่รัฐบาลจะกู้เงิน 7 แสนล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะต้องพิจารณาตัดงบประมาณค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออกไปก่อน ซึ่งจะทำให้ประหยัดการใช้จ่ายและลดการกู้เงินให้น้อยลงได้ โดยค่าใช้จ่ายใดที่ไม่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ต้องตัดลงหมด เช่น งบความมั่นคง งบซื้ออาวุธ ค่าดูงานต่างประเทศ ลดเงินเดือน สว. ลดการเกณฑ์ทหาร เป็นต้น เพื่อแสดงความสำนึกว่ารัฐบาลใช้เงินจำนวนมากแล้วจึงต้องประหยัดด้านอื่นด้วย"นายพิชัย กล่าว