ผบ.ตร.ตรวจด่านสิงขร ย้ำ จนท.เข้มงวดต่างด้าวลอบเข้าเมือง
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.และคณะ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจพื้นที่จุดสกัดกั้นแนวชายแดนรอยต่อประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และติดตามแผนสกัดกั้นคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่กองร้อย ตชด.146 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นพ.สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดให้การต้อนรับ โดย ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร รับทราบรายงานการเฝ้าระวังป้องกันคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศและแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานที่ด่านสิงขร
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีแนวชายแดนระยะทาง 283 กิโลเมตร โดยมีเทือกเขาตะนาวครีเป็นเส้นกั้นแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศเมียนมา มีช่องทางธรรมชาติที่สามารถผ่านข้ามแดนได้ 50 ช่องทาง และมีช่องทางที่ยานพาหนะสามารถผ่านเข้า-ออก ได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางป่าละอู อ.หัวหิน ช่องทางสิงขร อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และช่องทางชี อ.บางสะพาน ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดป้องกันการลักลอบเข้าประเทศของคนต่างด้าวทั้งบริเวณพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน หลังพบว่าในช่วงเดือน พ.ค.นี้ มีผลการจับกุมคนต่างด้าวผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่าจากเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่แนวชายแดนตอนบนมีความเข้มงวด คนต่างด้าวจึงต้องพยายามหาช่องทางอื่นเพื่อลักลอบเข้ามาในไทย เช่น แนวชายแดนพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.กาญจนบุรี โดยยืนยันว่าในส่วนของการสืบสวนขยายผลการจับกุม ได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำพาคนต่างด้าว ซึ่งนอกจากใช้กำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้วยังมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานส่วนกลางทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และชุดทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาช่วยสนับสนุนการทำงานด้วยเพราะข้อมูลมีความเชื่อมโยงกันหลายพื้นที่ ส่วนสถานที่กักกันคนต่างด้าวผิดกฎหมายเพื่อกักตัวดูอาการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นขณะนี้ยังคงเพียงพออยู่ โดยได้มีการจัดตั้ง 14 แห่งใน 10 จังหวัดพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดย จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี 1 แห่งที่ ตชด.146 ใช้อาคารเก่า 2 ชั้น รองรับได้จำนวน 50 เตียง
