"วิโรจน์"แนะเพิ่มเงินเยียวยาผลกระทบฉีดวัคซีนโควิดตายจ่าย 5 ล้าน ทุพลภาพ 2 ล้าน สร้างความเชื่อมั่นประชาชน "ณัฐพงษ์" จี้รัฐเร่งตรวจแบบ Rapid antigen test
"เสก-กานต์" รายงานสดไฟไหม้โรงงานพลาสติกหน้าหมู่บ้าน
“กระแต” นุ่งวันพีซหนังจระเข้แหวก-เว้าสุดติ่ง อวดหุ่นเป๊ะ-บั้นท้ายเด้ง
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. เขตบางเเค แถลงต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์โควิด- 19 โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 เพราะจากข้อมูลการจองคิวของของผู้สูงอายุจำนวนทั้งสิ้น 11.7 ล้านคน และผู้ป่วยจากโรคเรื้อรังที่มีอยู่ 4.3 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 16 ล้านโดส ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค.พบว่ามียอดจองการลงทะเบียนทั้งสิ้นเพียง 4,923,029 คน คิดเป็น 30.77 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเห็นแนวโน้มว่ายอดจองวัคซีนเพิ่มขึ้นเเต่ยังคงต่ำเเละห่างไกลจากเป้าหมาย 16 ล้านโดสอยู่พอสมควร พรรคก้าวไกลเล็งเห็น คือ ประชาชนยังขาดความเชื่อมั่นจากรัฐบาล ซึ่งสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้ดีที่สุดคือ การชี้เเจงข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาทั้งข้อมูลความเสี่ยงเเละคุณประโยชน์จาการฉีดวัคซีน เเละได้ไตร่ตรองตัดสินใจด้วยตนเองด้วยความเต็มใจ โดยพรรคก้าวไกลขอเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการดังนี้ รัฐบาลควรปรับวงเงินเยียวยาเบื้องต้นให้เพิ่มขึ้นจากเดิม จากเดิมที่เสียชีวิตวงเงิน 400,000 บาท เป็น 5,000,000 บาท ทุพลภาพจากเดิม 240,000 บาท ก็ปรับเป็น 2,000,000 บาทโดยเป็นการเยียวยา ไม่ใช่การชดใช้ความเสียหาย ซึ่งสามารถจ่ายได้ทันทีเมื่อเกิดอุบัติการณ์ขึ้น โดยไม่ต้องรอการสอบสวนหาสาเหตุ ตัวเลขที่ปรับสูงขึ้นไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลต้องการจะจ่ายเงินก้อนนี้ แต่มันสะท้อนถึงความมั่นใจในระบบการดูแลความปลอดภัยในการฉีดวัคซีนของประชาชน และเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลจะพร้อมเข้าไปรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชนอย่างเต็มที่ ปัจจุบันประชาชนทราบดีว่า รัฐบาลควรสรุปข้อมูล และชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว นั้นมีภูมิคุ้มกันขึ้นคิดเป็นร้อยละเท่าใด และปัจจุบันมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว แต่พบว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ มากน้อยเพียงไร ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงถึงประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อของวัคซีนซิโนแวค
ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยากสะท้อนปัญหาสำคัญที่รัฐบาลยังไม่สามารถรับมือกับการเเพร่ระบาด และถือว่าเป็นความผิดพลาด คือ การที่ยังตรวจไม่เพียงพอและไม่รวดเร็ว รวมถึงขาดการตรวจเชิงรุก อาทิ กรณีชุมชนบ้านขิง ที่ทีมงานของตนได้รับทราบข้อมูลตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.โดยตัวแทนชุมชนแจ้งว่ามีผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออาศัยอยู่ในชุมชนซึ่งมีอาการค่อนข้างรุนเเรง แต่เมื่อติดต่อไปยังสำนักงานเขตหรือ คอลเซนเตอร์ต่างๆของรัฐ ก็ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆสิ่งที่เราจะเสนอต่อรัฐบาลคือการตรวจ rapid antigen test ให้ประชาชนได้ตรวจอย่างเสรี เหมือนอย่างประเทศเยอรมนีที่เเจกชุดตรวจตามร้านขายยา เเละในอังกฤษที่มีการส่งชุดตรวจให้ฟรี 2 ครั้งต่อสัปดาห์