"ราชทัณฑ์" โต้ "รุ้ง" ยันไม่ได้ปกปิดข้อมูลโควิด – 19 ในเรือนจำ

2021-05-16 16:50:11

"ราชทัณฑ์" โต้ "รุ้ง" ยันไม่ได้ปกปิดข้อมูลโควิด – 19 ในเรือนจำ

Advertisement

"ราชทัณฑ์" โต้ "รุ้ง" ยันไม่ได้ปกปิดข้อมูลโควิด – 19 ในเรือนจำ  ยันแดนแรกรับที่ "รุ้ง" อยู่ตรวจแล้วไม่พบผู้ต้องขังติดเชื้อ นอนห้องเดียวกันก็ไม่ติดเช่นกัน

ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 พ.ค.2564

“กระแต” นุ่งวันพีซหนังจระเข้แหวก-เว้าสุดติ่ง อวดหุ่นเป๊ะ-บั้นท้ายเด้ง

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “บิดาและมารดาติดเชื้อโควิด – 19 จากตนที่ได้รับเชื้อมาจากในเรือนจำ โดยระบุว่าผู้ต้องขังและนักโทษไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 มากน้อยเพียงใดในเรือนจำนั้น กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า มีการแพร่ระบาดของ โรคโควิด- 19 จริงในหลายเรือนจำ แต่กรมราชทัณฑ์ยังคงดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งในกรณีของ น.ส.ปนัสยากรมราชทัณฑ์ ขอเรียนชี้แจง ดังนี้

กรมราชทัณฑ์ ได้รับตัว น.ส.ปนัสยา เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2564 โดยควบคุมภายในห้องกักโรค ของแดนแรกรับ และได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยการ SWAB ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2564 ผลไม่พบการติดเชื้อ และทำการตรวจหาเชื้อครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2564 ผลไม่พบการติดเชื้อเช่นกัน จนกระทั่งวันที่ 26 เม.ย. 2564 ได้อนุญาตให้ น.ส.ปนัสยา ลงจากห้องกักโรค (บนอาคารเรือนนอน) ลงมาอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังอื่นภายในแดนแรกรับ จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 6 พ.ค. 2564

ทั้งนี้ ทัณฑสถานหญิงกลาง แบ่งการควบคุมเป็น 2 แดน คือ แดนแรกรับ ซึ่งเป็นแดนที่ น.ส.ปนัสยา ถูกควบคุมตัวอยู่มีผู้ต้องขังประมาณ 1,500 คน ได้ทำการตรวจคัดกรองผู้ต้องขัง 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2564 ภายหลังจาก น.ส.ปนัสยา ปล่อยตัวไป ไม่พบผู้ต้องขังแดนนี้ติดเชื้อ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้ต้องขังที่นอนห้องเดียวกันและใช้ชีวิตใกล้ชิดกับ น.ส.ปนัสยา ตั้งแต่พ้นจากห้องกักโรค จำนวน 4 คน ก็ไม่พบการติดเชื้อเช่นกัน

สำหรับอีกแดนหนึ่ง คือ แดนผู้ต้องขังเด็ดขาดที่เกิดการระบาดของโรค ซึ่งมีผู้ต้องขังประมาณ 2,900 คน ทำการตรวจคัดกรองผู้ต้องขัง 100 เปอร์เซ็นต์พบผู้ต้องขังติดเชื้ออยู่ในแดนนี้ จำนวน 1,039 คน ตามที่ปรากฎเป็นข่าว และได้ย้ายผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น จึงขอสร้างความเข้าใจต่อสังคมว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้มีนโยบายหรือสั่งการให้ปิดบังข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 ในเรือนจำและทัณฑสถานแต่อย่างใด อีกทั้งยังได้มีหนังสือกำชับให้เรือนจำและทัณฑสถานปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด