"พิธา"จี้รัฐบาลฉีดวัคซีนโควิดให้ทั่วถึงโดยเร็ว

2021-05-14 21:45:37

"พิธา"จี้รัฐบาลฉีดวัคซีนโควิดให้ทั่วถึงโดยเร็ว

Advertisement

"พิธา"นำทีมก้าวไกลปูพรมตรวจโควิดเชิงรุกในชุมชน กทม. ลดความเสี่ยงเเพเชื้อโรค จี้รัฐบาลฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงโดยเร็ว

รวมเลขเด็ด 10 สำนัก งวดวันที่ 16 พ.ค.2564

“ตงตง” ได้หมายศาลฉบับแรกจาก “สมรักษ์” หลังน้อยใจลูกสาว

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ลงพื้นที่ชุมชนวัดไผ่ตัน เขตพญาไท เเละชุมชนจันทราสุข ซอยลาดพร้าว 87 เขตวังทองหลาง  กทม. เพื่อให้กำลังใจ และตรวจเชื้อโควิด-19 เชิงรุกให้ประชาชน


นายพิธา กล่าวว่า  ในวันนี้สถานการณ์การเเพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดในปัจจุบันยังไม่ดีขึ้น วันนี้เป็นวันที่ 45 ตั้งเเต่ที่เกิดโควิดระบาดในระลอกที่ 3 ที่ผ่านมา  โดยตนเเละทีมงานพรรคก้าวไกล มาลงพื้นที่เพื่อตรวจโควิดเชิงรุกในแหล่งชุมชนที่สำคัญ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาตนเเละทีมงานลงพื้นที่ในเขตบางเเค เเละในวันนี้ลงพื้นที่ในชุมชนประตูน้ำ ชุมชนวัดไผ่ตัน เขตพญาไท เเละชุมชนจันทราสุข เขตวังทองหลาง โดยเป็นการลงพื้นที่ใช้การตรวจเชิงรุกโดยใช้เทคโนโลยีเเบบใหม่ที่ไม่เคยใช้ในประเทศไทยมาก่อน​ นั่นคือ Rapid antigen test ซึ่งสามารถตรวจเเละสามารถรู้ผลภายใน 30 นาที  เเละมีความเเม่นยำพอสมควร อาจไม่ดีที่สุดในเชิงการเเพทย์ แต่เป็นระบบที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ปัจจุบัน​ ที่จะเเยกคัดกรองผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนได้เร็ว ถ้าเราเเยกได้เร็วการติดเชื้อก็จะลดลงช่วยลดภาระของบุคลากรทางการเเพทย์ได้อีกทั้งยังสามารถสร้างความมั่นใจเเละความเชื่อมั่นให้กับผู้คนในชุมชนในการกลับมาใช้ชีวิตเเบบปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งเราสามารถตรวจรู้ผลได้เร็ว ประหยัดราคา เเละประหยัดเวลา

"ผมขอเชิญชวนรัฐบาล โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาลงพื้นที่เพื่อพบประชาชน รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนได้ตรวจเชื้อโควิดในเชิงรุก เพราะใช้เวลาไม่นาน เเละสามารถควบคุมได้เยอะ หากเจอผลเเล้วไม่มั่นใจ เราสามารถตรวจในรูปแบบ RT-PCR ได้อีกครั้ง เเละเป็นการลดภาระบุคลากรทางการเเพทย์ได้สูง เเละจะสามารถลดคลัสเตอร์ในการติดเชื้อของผู้ป่วยในกรุงเทพมหานครได้ด้วย"นายพิธา กล่าว


นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าการมีวัคซีนกระจายฉีดให้ประชาชนอย่างทั่วถึงให้เร็วที่สุดเป็นทางออกในการแก้ไขวิกฤติสถานการณ์การเเพร่ระบาดที่เกิดขึ้น เพราะวัคซีนเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นทุนต่ำราคา 600 - 700 บาท เเต่การตรวจหาเชื้อโควิดแบบ PCR ราคาสูง ครั้งละ 3,000- 5,000 บาท ซึ่งจำนวนวัคซีนที่มีในปัจจุบันอาจจะไม่เพียงพอต่อจำนวนประชาชนเเละแก้ไขปัญหาประเทศได้ ตนยืนยันว่า วัคซีนเป็นสิ่งที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น​ ทั้งนี้อยากกระตุ้นไปยังรัฐบาล ว่าต้องเร่งหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่ดี เเละทั่วถึงประชาชนอย่างเร็วที่สุด ยกตัวอย่างหากต้องการให้ฉีดได้วันละ 3,000 เข็ม เเต่ปัจจุบันเรามีเพียง 1,000,000 เข็ม ซึ่งไม่เพียงพอต่อประชาชนทั้งประเทศ เเละที่สำคัญคือการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง ซึ่งประชาชนสับสนในมาตรการของรัฐ ในตอนเเรกรณรงค์ให้ใช้แอพลิเคชั่นหมอพร้อม เเต่ในปัจจุบันภาครัฐประชาสัมพันธ์ให้สามารถ walk-in ได้ ซึ่งมาตรการยังไม่ชัดเจน ที่จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชน  ซึ่งตนคิดว่าในการจัดการเบื้องหลังการฉีดวัคซีนกระบวนการหลายขั้นตอน อาทิ ถ้าเป็น phizer หรือ moderna เมื่อนำเข้ามาจะต้องใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บภายในห้องอุณหภูมิความดันลบ เเละจำกัดจำนวนผู้รับวัคซีน ในเบื้องต้น เเละปัญหาไม่ได้อยู่ที่การนัดล่วงหน้าในการรับวัคซีน เเต่อยู่ที่ผู้สูงอายุเข้าไม่ถึงกับการใช้แอพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งเราสามารถแก้ไขให้รัฐบาลเปิดคอลเซ็นเตอร์สำหรับรับลงทะเบียนได้ นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากสะท้อนไปยังรัฐบาล อีกทั้งยังกล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมากในเรือนจำ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เเละอธิบดีกรมราชทัณฑ์ควรมีมาตรการดูเเลที่ชัดเจน เพราะสิทธิในการได้รับรักษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้คุมขังตามรัฐธรรมนูญกำหนด ดังนั้น ผู้ติดเชื้อทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับรักษาอย่างเท่าเทียม เเละทั่วถึง และควรพิจารณาปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราวเพื่อเป็นการลดความแออัดในเรือนจำ ในการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19