นายกฯตรวจสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอก รพ. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เตรียมขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดลดความแออัด ขอคนไทยต่อสู้กับโควิดไปด้วยกัน
ช็อก “ราชทัณฑ์"เผยผู้ต้องขังติดโควิด 2,835 ราย
"ศรราม" ห่วงความปลอดภัย "วีจิ" ลั่น ยังไม่ให้เจอลูก แจงชัดดราม่าซัดกลับ "ติ๊ก" ด้วยหลักฐาน !!
เป็นอะไร ? “กานต์” โพสต์ภาพร้องไห้ พ้อเศร้าเห็นใจกันหน่อย !
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ณ บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เขตจตุจักร โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ
สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือ “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” ณ บริเวณชั้น 3 sky Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เป็น 1 ใน 14 แห่ง โดยความร่วมมือบริการวัคซีน โควิด-19 ระหว่างกรุงเทพมหานคร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆ ครบถ้วน อาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดัน จุดฉีดวัคซีน และจุดพักสังเกตอาการหลังการฉีด สามารถให้บริการ 1,000 คน /วัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. กลุ่มเป้าหมายแรกของการให้บริการจะเป็นกลุ่มบุคลากรด่านหน้าที่ต้องปฏิบัติงานในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและกลุ่มที่มีอาชีพเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมากซึ่งได้รับการลงทะเบียนกับสำนักอนามัย กทม. แล้ว
เบื้องต้น กรุงเทพมหานครร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โรงพยาบาลเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนของภาคเอกชนเพื่อให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล พร้อมให้บริการ 14 แห่ง ได้แก่ 1. เซ็นทรัล ลาดพร้าว ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี 2. เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ร่วมกับโรงพยาบาลวชิรพยาบาล 3. ไอคอนสยาม ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช 4. True Digital Park ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช 5. สามย่านมิตรทาวน์ ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 6. SCG บางซื่อ ร่วมกับกรมการแพทย์ 7. เดอะมอลล์ บางกะปิ ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี 8. เดอะมอลล์ บางแค ร่วมกับมหาวิทยาลัยสยาม โดยคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์9. ธัญญาพาร์ค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 10. เอเชียทีค ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 11. โรบินสัน ลาดกระบัง ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 12. โลตัส มีนบุรี ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก 13. บิ๊กซี บางบอน ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก และ 14. PTT Station พระราม 2 ร่วมกับโรงพยาบาลเครือบางปะกอก และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยไทยได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และบุคลากร โดยสำนักอนามัยจะลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และเมื่อสามารถเปิดให้บริการ“หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย”ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ครบทั้ง 25 แห่ง แต่ละแห่งจะมีศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000-3,000 คน/วัน รวมสามารถให้บริการได้ 38,000-50,000 คน/วัน นอกจากนี้“หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย”ทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือน เพื่อให้การบริการวัคซีนเป็นไปอย่างทั่วถึง รวดเร็วและปลอดภัยสำหรับประชาชนสูงสุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถือเป็นความร่วมมือในการกระจายวัคซีนของภาครัฐและเอกชน ขณะนี้มี 14 แห่ง และจะขยายเป็น 25 แห่ง ภายในวันนี้และจะมีการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อลดความแออัด ยอมรับว่าการจัดหาวัคซีนไม่ง่าย แต่ไทยมีวัคซีนมากที่สุดในอาเซียนและจะพยายามปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้คนไทยทั้งหมดให้ได้ภายในเดือน มิ.ย. โดยรัฐบาลจะดูแลคนไทยรวมไปถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานภายในประเทศไทย ตั้งแต่แรงงานต่างด้าวนักธุรกิจไปถึงทูต เพราะถือว่ามาช่วยสร้างเศรษฐกิจ พร้อมขอประชาชน อย่าตระหนกตื่นกลัว บางทีรับฟังข่าวสารมาหลายทาง รัฐบาลมีความมุ่งหมายชัดเจนในการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทุกคนอย่างรวดเร็วและครบถ้วน ตนไม่ได้รวบอำนาจยังทำงานเป็นทีมและต้องฟังหมอ เพราะนายกฯ ไม่ได้จบหมอ แต่บริหารผ่านรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ขออย่ารังเกียจซึ่งกันและกันเลยเราคือคนไทยด้วยกันทั้งหมด ต้องต่อสู้กับโควิด-19 ไปด้วยกัน เพื่อชาติและประชาชนทุกหมู่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นใครตนไม่รังเกียจทั้งสิ้น ไม่แบ่งแยกใคร รวมถึงสื่อต้องช่วยกันดูด้วย ข่าวที่มันไม่ใช่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่ ก็อย่าไปขยาย ไม่อย่างนั้นก็ไม่จบ คนก็จะไม่กล้ามาฉีด
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้คิดว่าเราต้องทำลายความหวาดวิตกความกลัวเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนให้ได้ รัฐบาลยืนยันว่าวัคซีนที่นำเข้ามามีการตรวจสอบมาตรฐานอาจเข้มงวดกว่าต่างประเทศด้วยซ้ำ และจำเป็นที่ต้องทยอยเข้ามา ความเสี่ยงคิดเป็นเพียง 0.0 กว่าๆ รัฐบาลขอขอบคุณภาคเอกชน ซึ่งคิดว่าหลังจากนี้จะมีอีกหลายแห่งจากการประชุมร่วมกันของรัฐบาลสภาหอการค้าและกระทรวงสาธารณสุข และ กทม.วันนี้เราต้องเดินหน้าไปให้ได้การฉีดและการจัดหาวัคซีนรวมถึงการดูแลต่างๆ ทุกมิติเป็นวาระแห่งชาติ ขอให้ทุกคนเชิญชวนให้คนมาฉีดให้มากขึ้นซึ่งวัคซีนในระยะนี้อาจยังจำกัดแค่ภายในเดือนนี้ แต่เดือนหน้าที่จะถึงก็จะมีวัคซีนเข้ามาอีกจำนวนมากก็จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มต่างๆ เพิ่มเติมมากขึ้น ขอให้ทุกคนเชื่อมั่น ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับตัวเองผู้กล้าหาญวันนี้ ยอดเยี่ยมสำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หรือหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีน โควิด-19 กทม. และหอการค้าไทย เป็นหนึ่งใน 14 แห่ง ด้วยความร่วมมือการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่าง กทม.ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและ รพ.รามาธิบดี โดยมีความพร้อมในการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆ อย่างครบถ้วน อาทิ จุดลงทะเบียน จุดวัดน้ำหนักส่วนสูง จุดวัดความดันจุดฉีดวัคซีนและจุดพักสังเกตอาการหลังฉีด โดยสามารถให้บริการ 1,000 คน/วันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.