สถาบันมะเร็งแห่งชาติแจงกรณีผู้ป่วยโควิดชาย 62 ปี เสียชีวิตหลังกลับจากพักรักษาตัวในฮอสพิเทล
“ใบเตย” โชว์เซ็กซี่แบบนอนสต็อป อวดอกตูม-บั้นท้ายเด้ง สุดจัดจ้านย่านหัวหิน
"พลอย เฌอมาลย์" ตรวจเชื้อครั้งที่ 4 ผลติดโควิด-19
ชมก็เยอะตำหนิก็แยะ "เจนนี่" ปล่อยคลิป "ลิลลี่" เต้นคัฟเวอร์ "ลิซ่า" ชาวเน็ตรุมวิจารณ์
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ National Cancer Institute โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีมีผู้ป่วยโควิดชายเสียชีวิตใน Hospitel ซึ่งทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้ดูแล Hospitel ดังกล่าวว่า จากที่มีการแชร์ข่าวสารและข้อมูลผู้ป่วยโควิดชาย อายุ 62 ปี เสียชีวิตหลังกลับจากพักรักษาตัวใน Hospitel เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2564 ที่ผ่านมานั้น มีข้อเท็จจริงดังนี้
-ผู้ป่วยชาย อายุ 62 ปี ได้รับการตรวจพบเชื้อโควิดจาก รพ.เอกชน เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2564 ได้รับการประสานเข้าพักรักษาตัวที่ Hospitel เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2564
- แรกรับเข้าพักรักษาตัวผู้ป่วยได้รับการคัดกรองอาการ รับการเอกซเรย์ปอดก่อนเข้าพัก ผลไม่พบความผิดปกติเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
- การนับระยะเวลากักตัวของผู้ป่วย จะนับจากวันที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ (SWAB) ซึ่งผู้ป่วยรับการตรวจเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2564 เข้าพักรักษาตัวใน Hospitel เมื่อ 28 เม.ย. 2564 ซึ่งผู้ป่วยครบกำหนดกักตัว 14 วัน ในวันที่ 7 พ.ค. 2564
-ตลอดเวลาที่พักรักษาตัว ผู้ป่วยได้รับการเฝ้าดูแลจากทีมแพทย์และพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง มีบันทึกผลการวัดไข้ วัดออกซิเจนในเลือดทุกๆวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และมีช่องทางให้ผู้ป่วยติดต่อได้ตลอดเวลาหากมีอาการผิดปกติ โดย Hospitel จะประสานนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
-เมื่อผู้ป่วยครบกำหนดกักตัว สามารถกลับบ้านได้ ผู้ดูแลจะสอบถามวิธีการเดินทาง ซึ่งผู้ป่วยแจ้งความประสงค์กลับโดยใช้รถสาธารณะ ทีม Hospitel ทำการเรียกรถให้ และแจ้งผู้ขับรถรับจ้างให้ทราบว่าเป็นผู้ป่วยโควิดที่ครบกำหนดกักตัว เพื่อให้ผู้ขับรถตัดสินใจ เมื่อยินดีรับ ทีม Hospitel ได้ให้เอกสารคู่มือการปฏิบัติตัวแก่รถรับจ้างเพื่อความปลอดภัย
- เหตุที่ผู้ป่วยได้รับการส่งตัวกลับช่วงเช้ามืด เนื่องจาก Hospitel จะได้รับการส่งตัวผู้ป่วยโควิดรายใหม่เข้าพัก ตั้งแต่เวลา 098.00 น. ของทุกวัน จึงหลีกเลี่ยงผู้ป่วยรายเก่าที่ใกล้หายแล้ว มิให้ปะปนเส้นทางกับผู้ป่วยรายใหม่ที่เข้าพัก และตัวผู้ป่วยเองประสงค์กลับบ้านโดยเร็วที่สุดเนื่องจากถูกกักตัวมาเป็นระยะเวลานาน
-กรณีที่ไม่ตรวจหาเชื้อโควิดแก่ผู้ป่วยซ้ำก่อนออกจาก Hospitel เนื่องจากผลตรวจผู้ป่วยหลังครบ 14 วันแล้วยังคงสามารถพบซากเชื้อซึ่งเป็นโปรตีนของโควิดอยู่ ทำให้การแปรผลเกิดความผิดพลาด เพราะซากเชื้อยังสามารถคงพบอยู่ได้ถึง 40-50 วัน ดังนั้นจึงไม่มีการตรวจ swab ซ้ำก่อนจำหน่าย ในขณะเดียวกัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย หลังกลับไปพักที่บ้านแล้ว เรายังคงแนะนำให้กักตัวและปฏิบัติตามมาตรการ social distancing ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง
-การชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยอาจได้ผลสรุปที่ไม่ครบถ้วนชัดเจน เนื่องจากมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการชันสูตรทำได้เพียงภายนอก งดการผ่าเปิดชันสูตรตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค จึงไม่อาจสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนได้ แต่จากรายงานที่พบ ผู้ป่วยโควิดก่อนเสียชีวิต จะไม่เกิดอาการแบบทันทีทันใด แต่จะค่อยๆ ทรุดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียชีวิต
ทั้งนี้ ต้องขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามขอเรียนว่าบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ไม่ว่าจะทั้งภาครัฐและเอกชน เราถือว่าโควิดเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม เรายังคงทุ่มเทสรรพกำลังช่วยกันดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถ จึงหวังให้สังคมได้เข้าใจและให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานต่อไป
ขอบคุณเพจ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ National Cancer Institute