ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์สั่งปิดโรงงานสับปะรดกระป๋องหัวหิน 14 วัน หลังพบแรงงานเมียนมาติดโควิด 115 คน ด้านชาวบ้านใกล้โรงงานผวาหวั่นเชื้อแพร่เข้ามาในชุมชน
เช็กรายละเอียด "คนละครึ่งเฟส 3"
ผงะ "โรคลัมปี สกิน"ระบาดใน 18 จังหวัดแล้ว
เคาะแล้ววันโอนเงิน 2 พัน "เราชนะ-ม33เรารักกัน"
ชมก็เยอะตำหนิก็แยะ "เจนนี่" ปล่อยคลิป "ลิลลี่" เต้นคัฟเวอร์ "ลิซ่า" ชาวเน็ตรุมวิจารณ์
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่ากรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ตรวจพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเป็นคลัสเตอร์ใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากในกลุ่มลูกจ้างชาวเมียนมา ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในโรงงานจำนวน 115 คน ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.หัวหิน ยืนยันว่าไม่มีการจัดตั้ง รพ.สนามภายในโรงงานสับปะรด แต่มีการฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามบ้านพักคนงานและจัดสถานที่สำหรับการกักตัวในโรงงาน สำหรับพนักงานในโรงงานมีทั้งหมด 593 คน เป็นพนักงานรายเดือนคนไทย 53 คน พนักงานรายวัน 540 คน แต่เป็นชาวเมียนมาถึง 523 คน หลังการคัดกรองพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวในโรงงานทั้งหมด 402 คน แบ่งเป็นผู้ที่อยู่ในบ้านพักของโรงงานแล้ว 202 คน และต้องเรียกคนงานจากหลายพื้นที่เข้ามากักตัวเพิ่มอีก 200 คน โดยห้ามบุคคลใดที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกภายในสถานที่กักตัวผู้มีความเสี่ยงสูงอย่างเด็ดขาด ยกเว้นหากผู้กักตัวมีอาการเจ็บป่วยต้องนำส่งโรงพยาบาลหรือยกเว้นเฉพาะเจ้าหน้ารับส่งอาหารเท่านั้น ซึ่งอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม. สำหรับการกักตัวกำหนดถึงวันที่ 20 พ.ค.นี้
ขณะที่ นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดที่ 4634 /2564 ตั้งศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่โรงงานสับปะรดกระป๋อง เพื่อปิดสถานที่ภายในโรงงานสับปะรดกระป๋อง หยุดสายการผลิตชั่วคราว ใช้กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งคนไทยและชาวเมียนมาเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-20 พ.ค. 2564 หากมีการผ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ระว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตาม พ.ร.ก..ฉุกเฉิน 2548 ตามมาตรา 18 คำสั่งดังกล่าวมอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทำหน้าที่บูรณาการและมอบหมายให้โรงพยาบาลในจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ มอบหมายให้นายอำเภอหัวหินจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชทซ มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)หินเหล็กไฟ รับผิดชอบเบิกจ่ายค่าอาหาร ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการควบคุมการแพร่ระบาด” นายกิตติพงศ์ กล่าว
นายปัญญา กอนใย ผู้ใหญ่บ้านหนองนกน้อย หมู่ 3 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน เปิดเผยว่ากรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเป็นคลัสเตอร์ใหม่ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากในกลุ่มลูกจ้างชาวเมียนมา ล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดจำนวน 115 คน ไปทำการรักษาที่ รพ.หัวหิน และคาดว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านหวั่นวิตกว่าจะมีการแพร่เชื้อเข้ามาในชุมชนหมู่บ้านทั้งที่ใกล้โรงงานและหมู่บ้านอื่นใน ต.หินเหล็กไฟ เนื่องจากแรงงานเมียนมามีการเคลื่อนย้ายเดินทางไปมาในพื้นที่และทราบว่าบางส่วนติดเชื้อโควิด-19 แล้วหลายวันก่อนที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ สำหรับโรงงานแห่งนี้มีพนักงานทั้งเมียนมาและคนไทย ขณะนี้ ได้ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานราชการเพื่อแจ้งเตือนประชาชนช่วยกันป้องกันตนเอง ลดกระแสข่าวลือ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกครัวเรือนอยู่บ้านเท่านั้น ส่วนการกักตัวของผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในโรงงาน ขณะนี้ไม่ทราบว่ามีผู้เข้ากักตัวครบตามจำนวนที่กำหนด 402 คนหรือไม่ แต่ในฐานะผู้ใหญ่บ้านออกตรวจในบ้านเช่า หอพักใกล้โรงงานทุกแห่ง เนื่องจากอาจมีแรงงานเมียนมาบางรายหลบซ่อนเพื่อหนีการกักตัวในโรงงาน 14 วัน และจะต้องระวังกลุ่มเสี่ยงสูงอาจจะหลบหนีออกนอกพื้นที่.