สธ.เผยคนจองฉีดวัคซีนเกือบ 2 แสนราย

2021-05-01 19:55:42

สธ.เผยคนจองฉีดวัคซีนเกือบ 2 แสนราย

Advertisement

สธ.เผยคนจองรับวัคซีนแล้ว 199,194 ราย ย้ำรอบนี้ สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง นัดหมายรับการฉีดได้ในโรงพยาบาล 1,200 แห่ง ลงทะเบียนได้ตลอดเดือน พ.ค. เริ่มฉีด 7 มิ.ย.– ก.ค. 

"ไอซ์" ลูกสาว "น้าค่อม" พ้อบางแว๊บก็แอบคิดน้อยใจว่าทำไมฟ้าถึงเอาคนดีดีไปเร็วจัง

รวมเลขเด็ด 10 สำนัก งวดวันที่ 2 พ.ค.2564

"เก๋"เมียนอกสมรส "บัวขาว" แจงยิบทำไมฟ้อง 25 ล้าน

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.  ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) ที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง แถลงว่า วันนี้ “หมอพร้อม” ระบบทำงานได้ตามปกติ จนถึงเวลา 14.30 น. มีผู้จองรับวัคซีนแล้ว 199,194 ราย แบ่งเป็นทางไลน์ 157,066 ราย และแอพพลิเคชัน 42,128 ราย ซึ่งการลงทะเบียนสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 3 องค์ประกอบ คือ 1. หมอพร้อม ไลน์และแอปพลิพคชัน 2.ไวท์ลิสต์ หรือรายชื่อที่โรงพยาบาลที่รับการรักษาส่งมาเข้าระบบ และ3.โรงพยาบาลปลายทางที่ต้องการไปฉีดวัคซีนต้องเปิดระบบการนัดฉีดแต่ละวัน (Slot) โดยช่วงเช้าใน กทม.ล่าช้า เนื่องจากโรงพยาบาลที่เปิดระบบมีเพียง 24 แห่ง ได้ประสานกทม. ขณะนี้เปิดแล้ว 134 แห่งจาก 160 แห่ง ส่วนโรงพยาบาลสนามยังไม่เปิดระบบ เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง จึงควรฉีดในโรงพยาบาล ส่วนโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เปิดระบบทุกโรงพยาบาลแล้ว โดยโรงพยาบาลขนาดเล็กเปิดรับจอง 360 คนต่อวัน โรงพยาบาลขนาดใหญ่ 600 คนต่อวัน คิดจากเวลาฉีด 1 คนต่อ 1 นาที สามารถฉีด 16 ล้านคน 16 ล้านโดสได้ภายในเวลา 54 วัน ซึ่งลงทะเบียนรับการฉีดจะทำให้สามารถส่งวัคซีนไปยังโรงพยาบาลได้ตามจำนวนที่จะต้องฉีด

นพ.พงศธร กล่าวต่อว่า รายชื่อในไวท์ลิสต์ โรงพยาบาลได้นำเข้าสู่ระบบตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ขณะนี้ต่างจังหวัดทำได้ประมาณ 95 - 98 เปอร์เซ็นต์ อาจตกหล่นรายชื่อประมาณ 1 ล้านคน จึงทำให้ไม่พบรายชื่อเมื่อจองคิว เนื่องจากมีโรงพยาบาล 1,200 แห่ง ได้แก้ปัญหาโดยเปิด หมอพร้อม ไลน์โอเอ เวอร์ชัน 2.1 เพื่อให้ประชาชนที่ตกหล่นสามารถลงชื่อได้เลย หรือแจ้งโรงพยาบาลที่มีประวัติการรักษา หรือหน่วยบริการที่ท่านมีสิทธิรักษาพยาบาล เพื่อนำรายชื่อเข้าระบบหมอพร้อม สำหรับกรณีที่รับการรักษา 2 โรงพยาบาลในกรุงเทพและต่างจังหวัด รายชื่อควรขึ้นทั้ง 2 โรงพยาบาล แต่เนื่องจากโรงพยาบาลในกรุงเทพยังไม่เปิดระบบนัดฉีด ทำให้มีรายชื่อขึ้นที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด

สำหรับกลุ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีน ได้เรียงลำดับความสำคัญแบ่งเป็น 5 กลุ่ม รวม 50 ล้านคน กลุ่มแรกคือ บุคลากรสาธารณสุข จำนวน 1.2 ล้านคน 2.บุคลากรด่านหน้า ทหาร ตำรวจ ประมาณ 1.8 ล้านคน 3. ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังอายุน้อยกว่า 60 ปี ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และเบาหวาน รวม 4.3 ล้านคน 4.ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11.7 ล้านคน และ5.ประชาชนที่เหลืออีก 31 ล้านคน โดยจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามาฉีดในเดือน มิ.ย.-ก.ค. จำนวน 16 ล้านโดส สำหรับ 16 ล้านคน และจากการสำรวจโพลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนเพียง 60 – 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงมีวัคซีนเพียงพอแน่นอน ไม่ต้องรีบลงทะเบียน ยังมีเวลาให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป และเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. – ก.ค. ส่วนประชาชนทั่วไปเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. 2564 และเริ่มรับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2564 ซึ่งจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ดือนละ 10 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนเป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับคำชมเชยจากบริษัทแม่ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ว่ามีคุณภาพสูงมาก รวมทั้งจะมีวัคซีนอื่นๆ อีกหลายล้านโดสที่จะทยอยเข้ามา

“หลังจากรับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ ร่างกายจะได้รับการกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ย้ำว่า การฉีดวัคซีนช่วยให้ตัวเราแข็งแรง มีภูมิต้านทานขึ้น หากติดเชื้อ ไม่ต้องนอนไอซียู ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ขณะเดียวกันมีการศึกษาในต่างประเทศระบุว่าช่วยลดการแพร่เชื้อได้ เพราะจำนวนเชื้อในจมูกจะลดลง ช่วยลดการแพร่เชื้อต่อไปยังชุมชนด้วย ช่วยทั้งตัวเรา ปกป้องครอบครัว ในที่สุดจะทำให้มีภูมิคุ้มกันหมู่ สามารถเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไปได้” นพ.พงศธร กล่าว