​นายกฯหารือหอการค้าไทยยันฉีดวัคซีนโควิด 50 ล้านคนในปีนี้

2021-04-29 09:52:01

​นายกฯหารือหอการค้าไทยยันฉีดวัคซีนโควิด 50 ล้านคนในปีนี้

Advertisement

​นายกฯ หารือหอการค้าไทยยันฉีดวัคซีนโควิดให้คนไทย 50 ล้านภายในปีนี้ ขณะที่หอการค้าไทยหนุนรัฐบาลตั้ง 4 ทีมหนุนกระจายฉีดวัคซีน

"เพนกวิน"อาการน่าเป็นห่วง ถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ-ลิ่มเลือด

ผอ.สำนักพุทธเคลียร์ชัด "อาลัวพระเครื่อง" ทำได้ผิด ก.ม.หรือไม่?

แชร์สนั่น "อาลัวพระเครื่อง"ชาวเน็ตหนุนบอกคนวิจารณ์อย่าคิดมาก

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล คณะกรรมการหอการค้าไทยนำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานอาวุโสหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อนำเสนอแนวทางการทำงานของหอการค้าไทยในการขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยจัดทำแผนตั้ง 4 ทีมสนับสนุน โดยมีบริษัทที่ถนัดในธุรกิจนั้น ๆ มาช่วยกระจายฉีดวัคซีนล็อตใหญ่ที่จะเริ่มเข้ามาตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2564

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยการหารือ นายกรัฐมนตรีดีใจที่รัฐบาลและเอกชนจะร่วมมือโดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อประเทศไทยเปิดประเทศ นายกรัฐมนตรียังเน้นถึงบทบาทสำคัญของรัฐบาลเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ เอกชน ดูแลกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ให้เกิดความยืดหยุ่นและดำเนินการได้ เช่นเดียวกับการโอนอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีมาเป็นของนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ใน พ.ร.บ.ทั้ง 31 ฉบับตามประกาศการกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีฯ (ฉบับที่ 3) ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นการบูรณาการกฎหมาย เพื่อแก้ไขสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ แผนการจัดหาวัคซีนเดิม จำนวน 63 ล้านโดส จัดหาเพิ่มเติม จำนวน 37 ล้านโดส เป้าหมาย 100 ล้านโดส ดูแลคนไทยทุกคนทั่วประเทศ รวมทั้งการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 เฉพาะหน้าโดยเฉพาะการนำผู้ป่วยเข้าถึงสถานพยาบาล การเตรียมพร้อมบุคลากร เครื่องมือ เตียงและยา ด้วย

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้กำลังใจในการทำงานของหอการค้าฯ มาโดยตลอด คณะกรรมการหอการค้าซึ่งประกอบด้วยผู้แทนธุรกิจเอกชนพร้อมจะสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ทั้งการเพิ่มจำนวนวัคซีนโควิด-19 และการกระจายการฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากขึ้นและเร็วขึ้น รวมทั้งการสร้างความมั่นใจในการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย และการเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงิน จึงได้จัดตั้งทีมสนับสนุนการฉีดวัคซีนภาคเอกชน ประกอบด้วย

TEAM A: ทีมสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน (Distribution and Logistics) เพื่อสนับสนุนสถานที่เพิ่มเติมจากภาคเอกชน ในการจัดทำหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ไปยังจุดต่าง ๆ รวมถึงใช้พื้นที่โรงงานหรือนิคมอุตสาหกรรม เป็นพื้นที่ฉีดวัคซีน ด้วย

TEAM B: ทีมการสื่อสาร (Communication) สนับสนุนการสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนทั่วไป สร้างการรับรู้ให้กับสังคม เชิญชวนประชาชนมารับการฉีดวัคซีนในสถานที่ที่พร้อมและรายงานความคืบหน้าที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงระบบ “หมอพร้อม”

TEAM C: ทีมเทคโนโลยีและระบบ (IT Operation) เพื่อจัดระบบลงทะเบียนให้รวดเร็วและระบบการติดตามตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

TEAM D: ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม (Extra Vaccine procurement) ร่วมกับภาครัฐและเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน โดยจะไปสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมจะทำงานเคียงคู่ไปกับภาคเอกชน เน้นการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์ โดยจะมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งทีมประสานงาน เพื่อดำเนินกิจกรรมคู่ขนานร่วมกับทีมภาคเอกชนทั้ง 4 ทีม รวมถึงการมอบหมายให้องค์การเภสัชกรรมและ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไปพิจารณาแนวทางการขึ้นทะเบียนสำหรับวัคซีนที่ได้รับการยอมรับจาก WHO นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังให้ความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของคนไทยทุกคน รวมทั้งแรงงานและชาวต่างประเทศที่ทำงานในประเทศไทยด้วย ไม่เพียงเฉพาะโรคติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น ยังรวมถึงโรคภัยอื่น ๆ รวมทั้งเดินหน้าเศรษฐกิจ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) สำหรับ SMEs มาตรการเยียวยาผู้มีรายได้น้อย โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว และตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อรองรับการเปิดประเทศของไทยหลังวิกฤตโควิด-19 ด้วย

ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมหารือแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีนายกฯเป็นประธานว่า 

นายดนุชา  กล่าวว่า  ที่ประชุมหารือถึงแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติมตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป โดยภาคเอกชนจะมีส่วนในการช่วยเหลือภาครัฐกระจายวัคซีนและจัดสถานที่สำหรับฉีดวัคซีนเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่จะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคน โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน 4 ด้าน ด้านที่ 1 คือ ด้านการกระจายและฉีดวัคซีน โดยใช้กลไกการทำงานของภาคเอกชนในการจัดสถานที่ฉีดวัคซีนและกระจายวัคซีนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และสำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดจะดำเนินการผ่านกลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จังหวัดและกลุ่มจังหวัด พร้อมร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยสำหรับการจัดเตรียมสถานที่และกระจายวัคซีน รวมถึงอุปกรณ์และบุคลากรที่จะเข้ามาช่วยปฏิบัติงานในจุดต่าง ๆ ด้านที่ 2 คือ ด้านการสร้างความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์ โดยภาคเอกชนจะมีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดหาและบริหารวัคซีน และสร้างความรับรู้แก่ประชาชนเรื่องการฉีดวัคซีนเพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้านที่ 3 คือ ด้านการสนับสนุนระบบอำนวยความสะดวกระบบงานต่าง ๆ โดยแอปพลิเคชันลงทะเบียนการฉีดวัคซีน “หมอพร้อม” ภาคเอกชนจะมีส่วนในการสนับสนุนระบบเพิ่มเติมระหว่างการลงทะเบียนและการฉีดวัคซีน และด้านที่ 4 คือ ด้านการจัดหาวัดซีนเพิ่มเติม ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และองค์การเภสัชกรรมพิจารณาแนวทางการผ่อนคลายกระบวนการพิจารณาอนุญาตให้ใช้วัคซีนสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ที่อยู่ระหว่างประเมินข้อมูลประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉิน (Emergency Use Authority : EVA) เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้รับผิดชอบในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อจัดทำแผนการกระจายวัคซีนและเตรียมความพร้อมสถานที่ฉีดวัคซีน และประสานงานในรายละเอียดให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันนี้ภาคเอกชนได้มีการเสนอ ในเรื่องต่าง ๆ 4 เรื่อง ได้แก่ 1) ด้านการกระจายและฉีดวัคซีน 2) ด้านการสร้างความเชื่อมั่นและประชาสัมพันธ์ 3) ด้านการสนับสนุนระบบอำนวยความสะดวกระบบงานต่าง ๆ และ 4) ด้านการกระจายวัคซีน โดยข้อเสนอในเรื่องของการกระจายวัคซีน ในด้านสถานที่ ทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมสถานที่จำนวนหลายแห่งไว้รองรับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับต่างจังหวัดจะผ่านกลไกของ กรอ. ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รับไปพิจารณาเร่งรัดจัดทำแผนการจัดหาและการกระจายวัคซีน และร่วมกันในการจัดหาสถานที่กรณีจำเป็น ในด้านการประชาสัมพันธ์ ทางสภาหอการค้าไทยได้ร่วมกับ Google  Facebook และหน่วยงานประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และการประชาสัมพันธ์โครงการต่าง ๆ ส่วนด้านการสนับสนุนระบบอำนวยความสะดวก ทางภาคเอกชนมีความยินดีที่จะช่วยเหลือ เรื่องอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ โดยเฉพาะการเข้าร่วมในระบบหมอพร้อม ซึ่งเป็นระบบที่มีความจำเป็นสำหรับการลงทะเบียนการฉีดวัคซีน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับภาคประชาชนและภาคธุรกิจในอนาคต พร้อมย้ำว่า สถาบันวัคซีนแห่งชาติไม่ได้ปิดกั้นในการนำเข้าวัคซีนของเอกชน โดยเอกชนภาคส่วนใดที่ต้องการนำเข้าวัคซีนก็มีความยินดี และทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติก็ได้ให้ข้อมูลอย่างชัดเจนว่าจะสามารถนำเข้าในกรณีเป็น Distribution หรือกรณีเจ้าของวัคซีนเองก็ได้ จะเป็นการเพิ่มความสะดวกและคลายกังวลให้กับภาคเอกชนและประชาชนได้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันภายในปีนี้ ประชาชนคนไทย ผู้ที่มาปฏิบัติงานหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย จะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน ขณะนี้รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนได้ถึง 1 ล้านโดส ที่จะครอบคลุม 70 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากร ขณะเดียวกันภาคเอกชนมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการทำงานร่วมภาครัฐบาล ถือป็นนิมิตหมายที่ดี โดยความร่วมมือเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ รวมถึง Phuket Sandbox Model ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถเปิดประเทศได้ในต้นปีหน้า