“ราชทัณฑ์"เผยผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงใหม่ติดโควิด 144 ราย จนท.2 ราย

2021-04-26 20:00:41

“ราชทัณฑ์"เผยผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงใหม่ติดโควิด 144 ราย จนท.2 ราย

Advertisement

“ราชทัณฑ์"เผยตรวจพบผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงใหม่ติดโควิด 144 ราย จนท.2 ราย สัมผัสใกล้ชิดผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเดิม ยันไม่มีการระบาดของเชื้อในเรือนจำชั้นใน

ทัวร์ลง รพ.หลังติดแฮชแท็ก "saveอนุทิน -ทองแท้ไม่กลัวไฟ"

ด่วน! "บิ๊กตู่"แอ่นอกรับผิดไม่สวมแมสก์ยอมให้ปรับ 6 พัน

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  ในเรือนจำกลางเชียงใหม่  ณ ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 146 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 2 ราย และผู้ต้องขัง 144 ราย เป็นการตรวจพบเชื้อใหม่ในวันที่ 25 เม.ย. 2564 จำนวน 85 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องขังกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงเดิม โดยทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ จนกระทั่งมีการตรวจหาเชื้อซ้ำและพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังกล่าว ตามมาตรการเชิงรุกของกรมราชทัณฑ์ เพื่อสกัดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้เข้าสู่เรือนจำชั้นใน เพิ่มเติมจากมาตรการเดิมที่มีเพียงการกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ รับย้าย และผู้ต้องขังออกศาลเป็นระยะเวลา 14 วัน ที่จะทำให้ตรวจพบเชื้อและดูแลได้อย่างทันท่วงที โดยผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อทั้ง 144 ราย ปัจจุบัน ได้รับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ในวันนี้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้มอบหมายให้นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อรัสโควิด-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ พร้อมสั่งยกระดับเข้ม มาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือ 1.BUBBLE AND SEAL คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า 2.SEPARATE การแยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงออกจากผู้ต้องขังกลุ่มอื่น และ 3. Mobile Field Hospital การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเรือนจำ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่อาการไม่รุนแรง หรือไม่มีอาการให้อยู่ในการควบคุมไม่แพร่เชื้อสู่ภายนอก รวมถึงการเร่ง SWAB เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุกเพิ่มเติมในผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงทุกราย ซึ่งคาดว่า จะสามารถควบคุมสถานการณ์และกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ภายในระยะเวลา 28 วันอย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ อยากให้ประชาชน รวมถึงญาติของผู้ต้องขังทุกคนอย่าได้วิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้มั่นใจว่า กรมราชทัณฑ์จะสามารถควบคุมและรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ ไม่ให้เข้าสู่เรือนจำชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพ