กทม.เผย อาม่า 2 รายจากบางคอแหลมติดโควิด-19 เข้ารับการรักษา รพ.สิรินธร อาการปลอดภัยแล้ว ยอมรับผู้ติดเชื้อใน กทม.ขอเตียงจำนวนมากทำผู้ป่วยค้างในระบบ
สุดสลด 3 อาม่าป่วยโควิด หาเตียงแอดมิทไม่ได้เสียชีวิตคาบ้าน 1 ราย
ผู้จัดการแบงก์ติดโควิดเสียชีวิตแล้ว ร่วมกินข้าว "สมศักดิ์"
ช็อก! โฆษก ศบค.แจงทั้งประเทศเหลือเตียงรองรับผู้ป่วย 19 วัน
จากกรณีข่าวสะเทือนใจ 3 อาม่า อาศัยอยู่ในเขตบางคอแหลม กทม. ป่วยโควิด-19 ไม่สามารถหาเตียงแอดมิทได้ จนอาม่า 1 คนเสียชีวิตที่บ้าน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผอ.สำนักการแพทย์ กทม. กล่าวถึงกรณีการเสนอข่าวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในซอยเจริญราษฎร์ 5 แยก 16 เขตบางคอแหลม ขอความช่วยเหลือเนื่องจากในครอบครัวมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้สูงอายุทั้งหมด 6 ราย ก่อนหน้านี้มีรถพยาบาลมารับไปแล้ว 3 ราย ส่วนอีก 3 ราย อยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย. มีผู้สูงอายุ 1 ราย เสียชีวิตในบ้านพักว่า สำนักการแพทย์ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งนำส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในครอบครัวดังกล่าวอีก 2 ราย เข้ารับการรักษาที่ รพ.สิรินธรเรียบร้อยแล้วในช่วงเช้าของวันที่ 23 เม.ย.64 ขณะนี้ทั้ง 2 ราย มีอาการดีสัญญาณชีพปกติ ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ และได้รับการรักษาตามมาตรฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายสุขสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องรอเข้ารับการรักษา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ กทม. ที่ประสานขอเตียงจำนวนมาก จึงมีผู้ป่วยค้างในระบบ รวมถึงข้อมูลผู้ป่วยถูกส่งมาจากหลายทาง อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ผู้ป่วยรอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ประสานติดตามอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการของโรครุนแรงเพิ่มขึ้นจะจัดรถไปรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษาเปิดโทรศัพท์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อและติดตามอาการได้ตลอด 24 ชม. ส่วนผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ศูนย์เอราวัณจะร่วมกับศูนย์ราชวิถี กรมการแพทย์ เร่งดำเนินการคัดกรอง เพื่อนำเข้าสู่ระบบการรักษาเป็นลำดับต้น ๆ ต่อไป
ผอ.สำนักการแพทย์ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เสียชีวิตที่บ้าน สำนักการแพทย์ได้วางแนวทางสำหรับการจัดการศพ มีการซักซ้อมตามมาตรฐาน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจจะสวมชุดและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล โดยศพได้รับการบรรจุใส่ถุงซิปล็อก 3 ชั้น ทุกขั้นตอนจะมีการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อภายนอกถุงตามมาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อภายในบ้านและบริเวณโดยรอบ เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้ผู้พักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง