"สันธนะ" เตรียมฟ้องกลับ จนท. 2 องค์กร "ตร.-ปปง." หลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้องคดีกรรโชกทรัพย์ ลั่นไม่มีการเจรจายอมความไม่รับคำขอโทษ
เปิดไทม์ไลน์ 7 ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อายุน้อยสุดหญิง 24 ปี
"อาร์ - เอื้อย" หย่อนภาพคู่แซ่บๆ พร้อมประกาศข่าวดี !! แฟนๆ ฮือฮามาก
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล พร้อมพวกรวม 11 คน กรณีเมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.-เม.ย.59 ต่อเนื่องกัน ได้สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปจับกลุ่มปรึกษาหารือเพื่อร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย19 ราย และกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าที่เช่าพื้นที่ภายบริเวณตลาดใหม่ดอนเมือง แขวง-เขตดอนเมือง กทม. โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ แสดงให้เห็นว่าขณะที่จำเลยไปเก็บเงินจากผู้เสียหายและผู้ค้าในตลาด ไม่ได้มีการข่มขู่ พกพาอาวุธ ในลักษณะกรรโชกทรัพย์ ส่วนประเด็นการล็อคประตู และทำลายทรัพย์สินหากผู้ค้าไม่ยอมจ่ายเงิน ก็เป็นเพียงเรื่องที่เล่าต่อกันมาจากผู้ค้าในตลาดในยุคของผู้บริหารชุดเดิม และจากเอกสารใบเสร็จรับเงิน ระบุวัตถุประสงค์ของเงินที่เก็บเป็นเงินกองกลางที่ไว้ใช้สำหรับค่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัย และพนักงานรักษาความสะอาด รวมไปถึงการจัดกิจกรรมของตลาดในวันพิเศษต่างๆ นอกจากนี้พยานหลักฐานยังระบุว่า ผู้เสียหาย กับกลุ่มจำเลยมีลักษณะการพึ่งพาช่วยเหลือกัน ผู้เสียหายไม่ได้มีความหวาดกลัวจำเลยแต่อย่างใด จึงไม่อาจระบุได้ว่าจำเลยข่มขู่กรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด
ภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จ นายสันธนะ เปิดเผยว่า วันนี้คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ถือว่าเสร็จกระบวนการการต่อสู้ทางกฎหมายแล้ว หลังจากนี้จะดำเนินการฟ้องกลับใน 2 องค์หลัก คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ตั้งแต่ระดับสั่งการ ปฎิบัติการ สืบสวน สอบสวน ตรวจค้น ทุกระดับที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้จะต้องรับผิดชอบ โดยนายสันธนะโชว์รูปภาพตำรวจระดับนายพล 2 นาย ที่เตรียมฟ้องด้วยพร้อมบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีการเจรจายอมความไม่รับคำขอโทษใดๆทั้งสิ้น ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่ถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินยึดไปนั้นตนเองไม่ขอคืน แต่จะเรียกร้องความเสียหายแทน