ตับอ่อนแอสุขภาพแย่ลง “พงษ์สิทธิ์ คำภีร์” เปิดตำนานเพื่อชีวิตรุ่นที่ 3 วงการเพลงไทย เผยหมอเตือนสุขภาพไม่ดี เฝ้าระวังอวัยวะภายในชิ้นสำคัญ !!
ถูกยกให้เป็นตำนานเพลงเพื่อชีวิตรุ่นที่ 3 ทำเอา "ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" เป็นปลื้มสุดๆ โดยเขาได้เผยเส้นทางการเป็นนักร้อง เริ่มต้นด้วยความไม่ประสบผลสำเร็จแต่ไม่ย่อท้อ จนถึงขั้นโด่งดังมีชื่อเสียงในทุกวันนี้ พร้อมเผยในช่วงโควิดไม่มีงานจนเกือบเป็นซึมเศร้า และอัพเดตสุขภาพตับต้องคอยเฝ้าระวัง รับครอบครัวเป็นห่วงแต่ไม่ห้าม โดยเจ้าตัวมาเผยทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW
กว่าจะมาเป็นพี่ปู อัลบั้มแรกเงียบมาก ?
ปู : ล้มเหลว ปี 2530 ตอนนั้นพี่เล็ก คาราบาว เป็นโปรดิวเซอร์ แกเป็นคนค่อนข้างสมัยใหม่ในเวลานั้น ดนตรีล้ำๆ อาจจะเร็วไป ชุดแรกยังทำอะไรไม่เป็น แต่เป็นความประทับใจในการทำอัลบั้มชุดแรก ตอนนั้นคิด 2 อย่าง กลับบ้านไปหาอาชีพทำ พอล้มเหลวมันก็ต้องเลี้ยงตัว สองคือลองเอาต่อสักพัก เลือกอย่างหลัง
ตอนนั้นแทบไม่มีงานไม่มีเงิน ?
ปู : ผมไปขายซาลาเปา พยายามหางานกลางคืนเล่นด้วย เล่นตามผับตามคาเฟ่ พอเลี้ยงตัวได้ ตอนนั้นคนยังไม่รู้จัก เคยไม่มีเงินเลย บางทีก็ไปแปะเพื่อน ไปอาศัยข้าวเขากิน ท้อเหมือนกันช่วงนั้น
เคยคิดจะกลับบ้าน ?
ปู : เคยบ่อยด้วย เวลามันท้อๆ กลับบ้านมีที่นอนฟรี มีข้าวกิน หางานทำก็คงไม่ลำบาก แต่เรามีความหวังเล็กๆ ไปเจอพี่ๆ ที่มือชื่อเสียงแล้วนั่งมองเขาแล้วก็เอาสักหน่อย ประมาณ 2 ปีกว่าๆ มีอัลบั้มที่ 2 ขายได้ 2 ล้านเทป
ทำไมเลือกเป็นศิลปินเดี่ยว ?
ปู : จริงๆ ผมมีกรุ๊ป แต่ว่ามันคงนานเกินไปสำหรับเขาค่อยๆ ไปกัน ก็เหลือผมคนเดียว
ตอนทำอัลบั้ม 2 คิดไหมว่าจะฮิต ?
ปู : ไม่เลย มีความหวังว่าจะเลี้ยงตัวได้ เพื่อไปต่อ จริงๆ ตอนแรกปล่อยมาครึ่งปีก็เงียบๆ ผมไปเล่นแบ็กอัพให้พี่หงาตระเวนเล่น ก็มีคนมาถ่ายรูป เราก็แปลกๆ มีคนขอเพลงเรา เราก็เล่นไม่เป็นเพราะเพลงยังไม่ดัง ไม่ได้หัดเล่น
เพลงไหนที่คนมาขอแล้วดัง ?
ปู : ตลอดเวลา ตอนนั้นผมร้องเพลงตะวันชิงพลบ แต่คนเขาไม่รู้ว่าใครร้อง พอละครดังมันก็เสริมๆ กัน พอเริ่มดังมากขึ้นก็หาวงรับงาน ปรับตัวไม่เป็นบริหารจัดการเงิน นักดนตรีก็มีเป๋ๆ บ้างก็ต้องปรับตัว
ศิลปินที่ดังแบบเงียบๆ หมายความว่ายังไง ?
ปู : คนเขาชอบว่าไม่ค่อยเจอผม เพราะผมไม่ไปไหนจะไปที่ซ้ำๆ เดิมๆ
พอสำเร็จแล้วเงินก้อนใหญ่ก้อนแรก ?
ปู : เป็นล้านเหมือนกัน ตกใจ ไม่เคยมีเงิน ของชิ้นแรกที่อยากได้ที่เป็นชิ้นเลยตู้เย็น เพราะอยากกินน้ำเย็น
มีกระแสเข้ามาว่าเพลงพี่ปูไม่ใช่เพลงเพื่อชีวิต 100% คืออะไร ?
ปู : สมัยโน้นเป็นวัย เขาจะเคร่งครัดคำว่าเพลงเพื่อชีวิต ตัวผมไม่ได้แคร์เพราะไม่ได้แต่งตั้งตัวเอง มีโดนกระแนะกระแหน ตอนนั้นอาย เขานั่งพูดต่อหน้าใกล้ๆ เนี่ยแหละ เขาเป็นรุ่นพี่ที่อายุกว่าเราเป็นรอบ เราพิสูจน์ด้วยงาน งานของเราจะบอก เราไม่สามารถบังคับให้คนมาชอบ ทำงานดีๆ ขึ้นเวทีดีๆ ร้องเพลงดีๆ
ตำนานเพลงเพื่อชีวิตรุ่นที่ 3 ?
ปู : ปลื้มนะ เวลาคนเรียกก็ปลื้ม
เพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงช้าทำไมคนต้องตีกัน ?
ปู : เขาไม่เลือกหรอกเพลงช้าเพลงเร็ว เพลงแกเพื่อนฉันตีกันบ่อยสุด เราก็ห้ามปราม
คอนเสิร์ตที่ประทับใจที่สุด ?
ปู : ตอนที่ผมยังเป็นเด็กหนุ่มไปกับวงคาราวานเล่นที่นครวัด เราเป็นนักดนตรีในโลกกลุ่มเดียวที่ได้เล่น ตอนนั้นกัมพูชาเปิดประเทศใหม่ๆ เราไปเป็นแบ็กอัพ คนมาดูเป็นแสน ผมประทับใจที่ได้ไปเล่นนครวัด หลังจากนั้นมีวงระดับโลกขอไปเล่นเขาก็ไม่ให้เล่น
ช่วงโควิดกระทบอยู่บ้านอย่างเดียว ?
ปู : ใช่ครับ ถึงขั้นโรคซึมเศร้าไหมมันก็ตุ่ยๆ คนมันเคยใช้ชีวิตเดินทาง บางทีตื่นนอนมางง เราชินกับการย้ายโรงแรมทุกวัน เอาตัวเข้ารถตู้ ถึงเย็นเตรียมเล่นดนตรี
ตอนเล่นคอนเสิร์ตทุกวันมีช่วงที่คิดจะหยุดพักผ่อนไหม ?
ปู : ไม่มีครับ ไม่พักเลย ผมไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบเครื่องบิน ไม่ชอบสนามบิน ไม่ชอบบรรยากาศบนเครื่องบิน สมัยก่อนอยู่บ้านเดือนละประมาณ 5 วัน
ตอนนี้ไม่มีงานเลย ?
ปู : นี่มันรอบสาม ถ้ารวมกันก็หลายเดือนแล้ว อยู่บ้านผมหนักไปทางดูหนัง ดูทั้งวัน เย็นๆ เตะฟุตบอล เตะคนเดียวกับฟุตปาธ ไม่รบกวนใคร
สุขภาพตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
ปู : ไม่ดี สุขภาพไม่ดี ตับต้องเฝ้าระวัง มีเป็นเก๊าต์ เราก็ไม่ได้เบาลง บอกหมอว่าอย่าห้ามผมเลยมีความสุข ยาอะไรดีก็เอามากิน ครอบครัวก็ห่วงแต่ผมชอบ ที่บ้านไม่ห้ามแต่รู้ว่าห่วง
