สั่งชะลอตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์"18 จังหวัดสีแดง"

2021-04-20 17:25:59

สั่งชะลอตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์"18 จังหวัดสีแดง"

Advertisement

รอง ผบ.ตร. ผวา "โควิด" ลามติด จนท. สั่งชะลอตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ "18 จังหวัดสีแดง"

"อนุทิน" ยัน “ยาฟาวิพิราเวียร์” เพียงพอ สั่ง อภ.จัดหาเพิ่ม 1 ล้านเม็ด

ตร.รอสอบปากคำ"แสตมป์"รับงานติดโควิด

“โบ ชญาดา” สุดเครียดกักตัว 14 วัน ทำจิตตกอาการแย่กว่าเป็นโควิด !




เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. มีคำสั่งด่วนที่สุด ที่ ศปม5.31/139 ลง 8 เม.ย.2564 เรื่อง กำชับการปฏิบัติในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของข้าราชการตำรวจ โดยระบุข้อความ ว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ มีการขยายวงกว้างมากขึ้น โดยผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ส่งผลผลให้ข้าราชการตำรวจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กันเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การระงับยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้ รพ.ตร.ร่วมกับ ศปม.ตร. วางมาตรการป้องกันการติดเชื้อของข้าราชการตำรวจ แล้วให้ ศปม.ตร. ยกร่างหนังสือเสนอ ตร.พิจารณาลงนามกำหนดเป็นมาตรการป้องกันในภาพรวม ส่วนกำลังพลที่รักษาหายดี หรือพ้นกำหนดการกักตัวแล้ว ให้เรียกตัวกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยให้กำกับดูแลการปฏิบัติของข้าราชการตำรวจทุกนายให้เป็นไปตามแนวทางที่ ตร.สั่งการไว้แล้ว พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังนี้


1.ให้ทุกหน่วยศึกษาทำความเข้าใจข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีการบังคับใช้มาตรการควบคุมเพิ่มเติมรวมทั้งปรับระดับพื้นที่สถานการณ์เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดจำนวน 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.นี้เป็นต้นไป 2.การออกตรวจพื้นที่ของเจ้าหน้าที่สายตรวจ ชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดสายตรวจร่วม ให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจตรา เพื่อระงับยับยั้งการมั่วสุม หรือการจัดกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด 3.การออกตรวจพื้นที่ในเวลากลางคืน ให้เน้นการเปิดสัญญาณไฟวับวาบ เพื่อสร้างการตระหนักรู้ โดยเน้นการตรวจบริเวณจุดเสี่ยง และห้วงเวลาเสี่ยง 4.เน้นการทำงานเชิงรุกโดยการประชาสัมพันธ์ หากพบการฝ่าฝืนให้เน้นการป้องกัน ระงับ ยับยั้ง และตักเตือนก่อน แล้วค่อยบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอนอย่างรอบคอบและรัดกุม 5.ให้ชะลอการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์และจุดกวดขันวินัยการจราจร โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด สำหรับจุดตรวจป้องกันอาชญากรรม จุดสกัดกั้นยาเสพติด และจุดสกัดกั้นตามแนวชายแดน ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ 6.ให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ งดจัดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะที่เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ งานรื่นเริง เว้นแต่เป็นการจัดพิธีตามประเพณีนิยม และมีมาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอ และ 7.พิจารณาปรับรูปแบบการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจในสังกัด โดยอาจปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง การสลับวันทำงาน หรือวิธีอื่นใดที่เหมาะสมเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ