มทภ.4 สั่งคุมเข้มป้องกันเข้าเมืองผิดกฎหมาย

2021-04-20 15:20:49

มทภ.4 สั่งคุมเข้มป้องกันเข้าเมืองผิดกฎหมาย

Advertisement


มทภ.4 สั่งคุมเข้มป้องกันเข้าเมืองผิด ก.ม. หลัง "มาเลเซีย" ผลักดันแรงงานออกนอกประเทศ

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์และแนวทางการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีการหารือและประสานการปฏิบัติงานเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับคนไทยกลับเข้าประเทศ หลังมาเลเซีย ขีดเส้นผลักดันชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องเดินทางออกจากประเทศมาเลเซีย โดย พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า เพื่อเป็นการรองรับคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศตามแนวชายแดนทั้งถูกกฎหมายและช่องทางธรรมชาติ จึงประสานจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ติดชายแดนมาเลเซีย ให้เตรียมมาตรการรับมือและสถานที่รองรับ รวมทั้งยังสั่งการให้ทุกหน่วยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหน่วยงานสาธารณสุข ปฏิบัติตามแผนมาตรการควบคุมโรค เช่นเดียวกับระลอกที่ผ่านมา ซึ่งทุกหน่วยงานรับผิดชอบสามารถปฏิบัติงานร่วมกันก็จะจนผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนั้นไปได้ ส่วนการดำเนินการต่างๆ ต้องยึดถือปฏิบัติตามที่ สบค.กำหนด


แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันตามแนวชายแดน ให้เข้มงวดมาตรการดูแลสกัดกั้นการผ่านช่องทางธรรมชาติที่ผิดกฎหมาย เพราะจะต้องนำเข้ากระบวนการ Quarantine เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด พร้อมฝากให้ฝากถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา สร้างความตระหนักรู้ในมาตรการ และความจำเป็นในการเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะกลับมายังประเทศไทย ขอให้แจ้งผ่านเข้ามายังเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ และนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคตามที่ สบค.กำหนด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน พร้อมยืนยันไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาผ่านช่องทางใด เจ้าหน้าที่พร้อมรับ และดูแล แต่ต้องมีการคัดกรองโรคอย่างเข้มข้น หากประชาชนพบเห็นผู้ที่แอบลักลอบเข้ามายังหมู่บ้าน หรือชุมชนของตัวเองโดยไม่ผ่านการคัดกรอง ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อโควิด-19 เข้าประเทศ




พล.ท.เกรียงไกร กล่าวต่อว่า ในส่วนพื้นที่ฝั่งชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา นั้น มีแนวรั้วชายแดนที่มีระยะทางยาว และมักพบว่ามีการลักลอบทำลายรั้วชายแดนอยู่บ่อยครั้ง จึงสั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี ซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ เพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวน ตรวจสอบ โดยหากตรวจพบรั้วถูกลอบตัดทำลายให้รีบซ่อมแซม และสร้างเครื่องบอกเหตุโดยทันที พร้อมให้ใช้ประโยชน์ด้านการข่าว ประสานการทำงานกับทุกภาคส่วน ช่วยกันดูแลสกัดกั้นตามแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันให้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้ช่วยกับเป็นหูเป็นตา ดูแลบ้านของตนให้ปลอดภัย ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี จะทำการลาดตระเวนจุดตรวจ จุดสกัด ด้วยชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ทั้งแนวชายแดนทางบกและทางน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้นต่อไป