กาฬสินธุ์ติดโควิดเพิ่มอีก 4 ราย ยอดสะสมพุ่ง 24 รายเปิดใช้ รพ.สนามแล้ว
ผลตรวจรอบ2 "อาต้อย เศรษฐา" ติดโควิด-19
จะต้มน้ำขิงกินทุกวัน “ก้อย” โชว์ผลตรวจเป็นลบไม่เชื้อ หลังถ่ายรายการร่วม “ป้อง ณวัฒน์”
"พระมหาไพรวัลย์-หมอปลา" เผชิญหน้า "หลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล"
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ใน จ.กาฬสินธุ์ โดยล่าสุดพบผู้ป่วยของการระบาดระลอกเดือนเมษายน 2564 มีจำนวน 24 ราย ซึ่งวันนี้ พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 4 ราย และผู้ป่วยเดิมรายที่ 1 – 20 ศูนย์อำนวยการฯ ได้แถลงไปแล้ว
โดยรายที่ 21 เพศชาย อายุ 9 ปี เป็นนักเรียน ภูมิลำเนา ต.หนองตอกแป้น อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีอาการป่วย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดครอบครัวเดียวกันกับผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานครที่กลับมาเยี่ยมบ้าน ซึ่งเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร ไม่มีประวัติสถานที่เสี่ยงใน จ.กาฬสินธุ์ (ติดจากคนในครอบครัว)
รายที่ 22 เพศหญิง อายุ 30 ปี อาชีพครู ภูมิลำเนา ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันรายที่ 16 (รับประทานอาหารร่วมกัน) เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2564 มีอาการไข้ ไอ มีน้ามูก มีเสมหะ หายใจไม่สะดวก จมูกไม่ได้กลิ่น ไม่มีประวัติสถานที่เสี่ยงใน จ.กาฬสินธุ์
รายที่ 23 เพศหญิง อายุ 30 ปี อาชีพค้าขาย ภูมิลำเนา ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน รายที่ 16 (พูดคุยกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัยทั้งคู่) เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2564 มีอาการไข้ ไอ พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยง วันที่ 13-14 เม.ย. 2564 ช่วงเวลา 09.00-14.00 น.ร้านขายน้ำปั่นที่หน้าบ้านญาติผู้ป่วยบ้านโคกคำม่วง หมู่ที่ 7 ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
รายที่ 24 เพศหญิง อายุ 19 ปี อาชีพนักศึกษา ภูมิลำเนา ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โรคประจำตัวหอบหืด มีประวัติการเดินทางไปสถานบันเทิงใน จ.กาฬสินธุ์ ในห้วงเวลาเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยัน COVID-19 (วันที่ 6 และ 9 เม.ย.2564) ได้รับแจ้งข่าวจึงรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่และกักตัวตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2564 มีอาการหอบกำเริบจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2564 และได้รับการส่งตรวจยืนยันว่าพบเชื้อโควิด-19 พื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยง วันที่ 6,9 เม.ย. 2564 ช่วงเวลา 23.00-02.00 น.ร้านตากอากาศ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์
สำหรับผู้ป่วยทั้งหมดเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์แล้วท่านที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน หรือเดินทางเข้าไปในพื้นที่และช่วงเวลาเสี่ยงที่ศูนย์อำนวยการฯ ประกาศ ขอให้กักตัว 14 วัน และให้แจ้งรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม.ใกล้บ้าน หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 043-019760 ต่อ 107 (กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์)
นายทรงพล กล่าวอีกว่า สำหรับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์สามารถรองรับได้ 28 เตียง ขณะนี้ได้นำผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารักษาในช่วงแรกและมีอาการดีขึ้นมากแล้ว ไปพักฟื้นรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสนามโรงพยาบาลฆ้องชัย จำนวน 6 ราย ซึ่งได้เปิดใช้งานแล้ว เพื่อลดความแออัด และเพื่อการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ ในส่วนกรณีของโรงพยาบาลสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ที่มีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์รวม 7 ราย ได้สัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มาเข้ารับการรักษาตัว โดยได้ทราบผลภายหลังว่าผลเป็นบวกนั้น ทางโรงพยาบาลสมเด็จได้ประกาศให้ทั้ง 7 ราย เข้ารับการกักตัว 14 วัน เพื่อตรวจสอบสังเกตอาการ ตรวจหาเชื้อ และเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทันที จึงขอความร่วมประชาชนในอำเภอสมเด็จและพื้นที่ใกล้เคียงลดการเข้ารับบริการไปก่อน ขอให้เฉพาะกรณีฉุกเฉิน วิกฤติ เท่านั้น และขอความร่วมมือให้ทุกคน ปฏิบัติตนตามแนวทาง D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19