"อภัยภูเบศร"ไขทุกข้อข้องใจ"ฟ้าทะลายโจร"สยบโควิด

2021-04-17 15:40:42

"อภัยภูเบศร"ไขทุกข้อข้องใจ"ฟ้าทะลายโจร"สยบโควิด

Advertisement

"อภัยภูเบศร" ไขข้อข้องใจ "ฟ้าทะลายโจร" สยบโควิด-19 หลังเกิดความสับสนบนโลกโซเชียล

ตร.จ่อหมายเรียก"4 แกนนำ"ม็อบสาดสี ครม.บิ๊กตู่

“นาตาลี” ใจจะขาด! ต้องแยกจากลูกสาวตัวน้อย หลัง “ฟลุค"ติดโควิด-19

เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชี้แจงกรณีมีการแชร์ข้อมูลฟ้าทะลายโจร ในโลกโซเชียล ซึ่งสร้างความสับสนในเรื่องของสรรพคุณ ว่า ในฐานะที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องฟ้าทะลายโจร ต้านโควิด-19 เป็นเจ้าแรกตั้งเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จึงขอไขข้อข้องใจในประเด็นต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนี้ ประเด็นแรก ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ได้จริงหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ไม่มียา หรือวัคซีนใดที่จะตอบได้อย่างเต็มปากว่ารักษาหรือป้องกันได้จริง แต่จากการวิจัยเอกสารที่มีการทำการศึกษาวิจัยมากมายหลายฉบับ ทำให้มั่นใจว่าฟ้าทะลายโจร มีประโยชน์ในการนำมาใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 จึงส่งมอบเอกสารให้กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หลังเกิดการระบาดระลอกแรก จนนำไปสู่การใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาผู้ป่วยโควิด-19 รายที่มีอาการน้อยและไม่มีอาการในโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพบว่าผู้ที่มีอาการน้อยหลังจากได้รับยาฟ้าทะลายโจร มีอาการดีขึ้นทุกรายโดยไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนในรายที่ไม่มีอาการ ก็ไม่พบว่ามีอาการภายหลัง และปลอดภัยดี โรงพยาบาลอภัยภูเบศร จึงอยากให้มีการวิจัยฟ้าทะลาย โจร เพื่อให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์ จึงเตรียมสารสกัดฟ้าทะลายโจร ส่งให้คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษากลไกในการต้านโควิด-19 ซึ่งผลการศึกษาพบว่า สารสกัดจากฟ้าทะลายโจร และสารแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร มีความสามารถในการยับยั้งกระบวนการติดเชื้อไวรัสของเซลล์ปอด โดยผ่านกลไกที่สำคัญ คือ การยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกระยะ จึงมีโอกาสที่จะพัฒนาการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเดี่ยว หรือใช้ควบรวมกับสูตรยามาตรฐานในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ปัจจุบันผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร "Natural Products" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 




ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่สอง ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่นั้น ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจร ป้องกันโควิด-19 ได้ แต่มีการศึกษาพบว่าการใช้ฟ้าทะลายโจร ขนาดต่ำ (แอนโดรกราโฟไลด์ 11.2 มิลลิกรัมต่อวัน) กิน 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยป้องกันหวัดได้ ซึ่งนักวิจัยกล่าวถึงผลการป้องกันหวัดว่า น่าจะเกิดจากฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีงานวิจัยที่สนับสนุนอยู่มากพอสมควรว่าฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในส่วนตัวเองที่เก็บข้อมูลจากหมอพื้นบ้านก็เห็นช่วงฤดูหนาวชาวบ้านก็กินฟ้าทะลายโจร 2-3 ใบทุกวัน สำหรับผู้ประสงค์จะใช้ฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกันจะต้องกินฟ้าทะลายโจร ขนาดต่ำ และต้องไม่เป็นผู้ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ตับและไตต้องดี และไม่ได้กินยาละลายลิ่มเลือดที่ชื่อวาร์ฟาริน ส่วนประเด็นที่สาม หากใช้ฟ้าทะลายโจร แล้วไม่ต้องฉีดวัคซีน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันที่จำเพาะสำหรับเชื้อโควิด-19 ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อยก็ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง ลดภาระของระบบบริการสุขภาพได้ การใช้ฟ้าทะลายโจร มีข้อมูลสนับสนุนว่ามีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน ทั้งภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิด และภูมิคุ้มกันจำเพาะ แต่ยังไม่มีการศึกษากับเชื้อโควิด-19 โดยตรง ดังนั้นประชาชนควรฉีดวัคซีน ซึ่งจะเห็นได้จากประเทศอังกฤษ ที่มีการฉีดวัคซีนกันอย่างกว้างขวาง ทำให้อัตตราการติดเชื้อลดลง


เด็นที่สี่ ฟ้าทะลายโจร ที่เป็นสารสกัดมีฤทธิ์ดีและปลอดภัยกว่าผงบดหยาบใช่หรือไม่ ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ไม่จริงเสมอไป ขึ้นกับมาตรฐานการผลิตและโรคที่นำไปใช้ ใน Thai Herbal Pharmacopoeia กำหนดไว้ว่า ต้องมีปริมาณแลคโตนรวมไม่น้อยกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ และแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในมาตรฐานดังกล่าวใช้สำหรับบรรเทาอาการเจ็บคอและบรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยขนาดที่แนะนำ คือ 1,500-3,000 มิลลิกรัม กินวันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน หรือใช้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ก็ได้ ประมาณ 60-120 มิลลิกรัมต่อวัน ในการบรรเทาอาการเจ็บคอและหวัด ในส่วนของโควิด-19 ที่มีใช้ในระบบบริการสุขภาพตอนนี้ ก็มีทั้งผงหยาบที่ทราบปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ และสารสกัด ดังนั้นประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่ผงบดหยาบหรือสารสกัด แต่อยู่ที่ว่าผู้ป่วยได้รับปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณสูงเพียงพอต่อการรักษาหรือไม่ 


ในส่วนของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ใช้ผงบดหยาบที่มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งทุกคนอาการดีขึ้น ไม่มีผลข้างเคียง การสกัดโดยปกติเป็นการสกัดที่มุ่งเน้นจะให้ปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์สูง แต่โดยทั่วไปในภาคอุตสาหกรรมเราสกัด แอนโดรกราโฟไลด์ได้อยู่ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เราให้เกษตรกรปลูกจนเริ่มออกดอก แล้วนำส่วนเหนือดินมาใช้ ก็ได้ถึง 3-4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในช่วงระบาดระลอกแรก โรงพยาบาลได้แจกเมล็ดพันธุ์พร้อมส่งวิธีปลูกให้ผู้สนใจ ตอนนี้หลายคนนำมาใช้บรรเทาหวัด ฟ้าทะลายโจร ถือเป็นสมุนไพรที่ควรปลูกไว้ที่บ้านเพื่อใช้ดูแลสุขภาพยามเจ็บป่วยได้ ส่วนที่มีการส่งต่อทางไลน์โดยระบุว่า สาร 14-deoxy-11 12-didehydroandrographolide (AP 3) ที่พบในผงฟ้าทะลายโจร อาจทำให้ความดันโลหิตลดลง หรือแขนขาอ่อนแรงได้นั้น ยังไม่เคยเห็นรายงานดังกล่าว และฟ้าทลายโจรในรูปแบบผงอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งมีการใช้อย่างกว้างขวางในโรงพยาบาล และมีความปลอดภัย ทั้งนี้การสร้างภูมิคุ้มกันถือเป็นเกราะสำคัญในการป้องกันโรค ตั้งแต่มาตรการ DMHTT การรับประทานอาหาร เน้นเครื่องเทศ ผัก ผลไม้ พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกาย และสัมผัสแดดในช่วงเช้าหรือเย็น ล้วนแล้วแต่ต้องดำเนินการเป็นองค์รวม อย่าใช้เครื่องมือเดียว เพราะโควิด-19 เป็นโรคใหม่ที่เรายังไม่เข้าใจทั้งหมด อนาคตอภัยภูเบศร ปรารถนาให้ประชาชน ผู้ประกอบการ รายย่อย ได้ปลูก เก็บเกี่ยว บด บริโภค แจกจ่าย ขายฟ้าทลายโจร เพื่อการดูแลรักษาตนเองในเบื้องต้น ทั้งนี้จะมีการสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วนด้วยส่งเสริมสนับสนุนองค์ความรู้พื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ฟ้าทะลายโจร หรือสมุนไพรอื่น สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่อเติมได้ที่ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ในวันและเวลาราชการที่เบอร์ 037-211-289