เกิดเหตุคนร้ายเด็กหนุ่มวัย 19 ปี บุกกราดยิง ภายในบริษัทรับส่งพัสดุ “เฟดเอ็กซ์”ในเมืองอินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกา เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่ม คืนวันพฤหัสบดี (15 เม.ย.) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตถึง 8 ศพ บาดเจ็บอีก 7 คน ตำรวจพบคนร้ายเคยทำงานในบริษัท และเคยมีประวัติป่วยทางจิต
นายแรนดอล เทย์เลอร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจเมืองอินเดียแนโพลิส แถลงว่า เกิดเหตุยิงกันตาย ภายในบริษัทเฟดเอ็กซ์ ผู้ให้บริการรับส่งพัสดุและขนส่งสินค้าด่วนพิเศษ ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติอินเดียแนโพลิส เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันพฤหัสบดี (10.00 น.วันศุกร์ ตามเวลาในประเทศไทย) โดยคนร้ายชาย 1 คน อายุ 19 ปี เปิดฉากกราดยิงแบบไม่เลือกหน้า ด้วยปืนไรเฟิล แทบจะทันทีที่เปิดประตูรถยนต์ ที่ขับเข้าไปจอดภายในบริษัท และใช้ปืนยิงตนเองเสียชีวิต ก่อนที่ตำรวจจะเดินทางไปถึง
ตำรวจ พบผู้เสียชีวิตรวม 8 คน ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล 7 คน โดย 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวตนเหยื่อ รวมทั้งมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้
ส่วนนายเครก แม็คคาร์ท รองหน้าฝ่ายสอบสวนคดีอาญา สำนักงานตำรวจเมืองอินเดียแนโพลิส เผยว่า คนร้ายขับรถยนต์ส่วนตัว เข้าไปจอดข้างอาคารหลังหนึ่ง ภายในที่ทำการบริษัท และเริ่มเปิดฉากกราดยิง โดยไม่มีการทะเลาะมีปากเสียงใดๆ มีผู้เสียชีวิตด้านนอกอาคาร 4 ศพ และภายในอาคารอีก 4 ศพ รวมถึงตัวคนร้าย ที่ใช้ปืนยิงตนเอง เพียงไม่กี่นาที ก่อนที่ตำรวจจะเดินทางไปถึง
นายแม็คคาร์ท เผยอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้น คนร้ายเคยทำงานในบริษัทแห่งนี้มาก่อน และเคยมีประวัติป่วยทางจิต ซึ่งทำให้ถูกตำรวจจับกุมและคุมขัง เมื่อปีที่แล้ว ส่วนโฆษกหญิงบริษัทเฟดเอ็กซ์ เผยว่า คนร้ายชื่อนายแบรนดอน โฮล ( Brandon Hole) เคยทำงานที่บริษัทแห่งนี้จนถึงฤดูใบไม้ร่วง ปี พ.ศ. 2563
นับเป็นเหตุสลด ยิงกันตายหมู่ครั้งล่าสุด ของที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสหรัฐอเมริกา
นายโจ ฮ็อกแซตต์ นายกเทศมนตรีเมืองอินเดียแนโพลิส กล่าวแสดงความไว้อาลัย ต่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ พร้อมกับเรียกร้องต่อชาวอเมริกัน ให้ร่วมมือกันยับยั้งความรุนแรงจากอาวุธปืน ที่คร่าชีวิตผู้คนมากจนเกินไปทั่วประเทศ
เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการสืบสวน เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ แต่ปฏิเสธที่จะตอบว่าเป็นบ้านของผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุหรือไม่.