กัมพูชาล็อกดาวน์ ปิดพื้นที่เมืองหลวง กรุงพนมเปญ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือจนถึงปลายเดือนนี้ เพื่อควบคุมการระบาดรุนแรงระลอกใหม่ ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตชาวกัมพูชา 36 คนแล้ว
สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมา ว่า ทั่วทุกเขตของกรุงพนมเปญ และเมืองตาเขมา เมืองเอกของจังหวัดกันดาล ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 11 กิโลเมตร จะอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. จนถึงวันที่ 28 เม.ย. โดยมาตรการจำกัดการเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่ยังคงเดิม การออกนอกบ้านต้องมีเหตุผลความจำเป็นอย่างยิ่ง เช่น ซื้ออาหาร ไปพบแพทย์ ซื้อยา หรือทำกิจธุระที่ไม่สามารถทำที่บ้านได้
รัฐบาลกำหนดโควตาการออกจากบ้าน ได้ครั้งละไม่เกิน 2 คน และไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ผู้ที่ออกจากบ้านในช่วงล็อกดาวน์ ต้องมีเอกสารครบตามที่ทางการกำหนด และพร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่
แต่ข้อจำกัดการออกจากบ้าน ผ่อนผันสำหรับกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถออกจากบ้านได้ครั้งละไม่เกิน 4 คน รวมทั้งการออกไปรับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และการฉีดวัคซีนตามจุดบริการของรัฐ ขณะที่สถานประกอบการแทบทุกประเภทในกรุงพนมเปญ และเมืองตาเขมา ยังคงเปิดดำเนินการได้ หากปฏิบัติตามเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ ส่วนการรวมกลุ่มในที่สาธารณะ ห้ามเกินกว่า 2 คน
ทางด้านแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ใหม่อีก 344 คน ในระยะ 24 ชั่วโมงจนถึงวันพฤหัสบดี โดยผู้ติดเชื้อ 4 คนเป็นชาวจีน ส่วนที่เหลือเป็นชาวกัมพูชาทั้งหมด และเป็นการติดเชื้อแบบนำเข้า 5 คน ซึ่ง 4 คนในจำนวนนี้ เป็นผู้โดยสารของสายการบินอินโดนีเซีย เดินทางผ่านสิงคโปร์ ถึงกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. และอีก 1 คนเป็นแรงงานชาวกัมพูชา เดินทางกลับจากประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 เม.ย.
การติดเชื้อครั้งล่าสุด ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมในกัมพูชา เพิ่มขึ้นเป็น 5,218 คน เสียชีวิตสะสม 36 คน และยังมีผู้ป่วยรับการรักษาอยู่ในระบบ 2,858 คน.