ท้องฟ้าเหนือกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน กลายเป็นสีเหลืองเข้ม และมลพิษในอากาศพุ่งสู่ระดับร้ายแรง เมื่อเมฆทรายและฝุ่นละอองลูกมหึมา เคลื่อนตัวเข้าสู่เมือง โดยกระแสลมแรงจากทางภาคเหนือของประเทศ
ดัชนีคุณภาพอากาศของกรุงปักกิ่ง พุ่งสูงสู่ระดับ 324 เมื่อเวลา 16.00 น.วันพฤหัสบดี (15 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น สาเหตุหลักเกิดจากฝุ่นละอองและทราย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน หรือ ซีเอ็มเอ (China Meteorological Administration) คาดการณ์ว่า อนุภาคฝุ่นละอองจากประเทศมองโกเลีย และเขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน จะนำพามลพิษเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกของจีน ในวันศุกร์ (16 เม.ย.)
เจ้าหน้าที่ซีเอ็มเอ กล่าวว่า ปริมาณทรายในอากาศครั้งนี้ น้อยกว่าช่วงที่เกิดพายุทราย 2 ระลอก ทางภาคเหนือของจีน เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ความเร็วลมครั้งนี้สูงกว่า ซึ่งหมายถึงจะทำให้ฝุ่นและทรายถูกพัดไปเร็วกว่า และไกลกว่า
ตามปกติ ทางการจีนกล่าวว่าพายุทรายในจีน ในแต่ละปี มีต้นกำเนิดจากทะเลทรายโกบี ในประเทศมองโกเลีย
คณะผู้แทนจากมณฑลกานซู ที่แห้งแล้งของจีน กล่าวในรายงานนำเสนอต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนที่แล้ว ว่า กว่าครึ่งของพายุฝุ่น ที่พัดเข้าสู่จีนในแต่ละปี มาจากต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่พัดมาจากทางภาคใต้ของประเทศมองโกเลีย
เทศบาลนครปักกิ่ง ปลูกต้นไม้หลายล้านต้น ตามแนวเขตแดน เพื่อใช้เป็นแนวต้านพายุทราย ส่วนหนึ่งของโครงการที่รู้จักกันในชื่อ กำแพงเมืองจีนสีเขียว (Great Green Wall).