สถานการณ์ประท้วงในรัฐมินนิโซตา ทางภาคเหนือสุดตอนกลางของสหรัฐอเมริกา ยังคงตึงเครียด ประท้วงรุนแรงติดต่อกัน 3 คืน แม้ตำรวจหญิงที่ก่อเหตุยิงเด็กหนุ่มผิวสีเสียชีวิต และผู้บังคับบัญชาจะประกาศลาออก และตำรวจหญิงมือยิงถูกตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยประมาท
จากเหตุการณ์ น.ส. คิม พอตเตอร์ ตำรวจหญิงวัย 26 ปี ของสำนักงานตำรวจเมืองบรูคลิน เซ็นเตอร์ ใกล้เมืองใหญ่มินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ใช้อาวุธปืนพกประจำตัว ยิงนายดอนเต ไรท์ วัย 20 ปีชาวอเมริกันผิวสี ระหว่างการเผชิญหน้า ขณะที่นายไรท์ขับขี่รถยนต์ติดสัญญาณไฟแดง บนถนน ทำให้การประท้วงใหญ่ครั้งใหม่ ทั้งในรัฐมินนิโซตา และอีกหลายเมืองทั่วสหรัฐ จากชนวนความขัดแย้งเกี่ยวกับเชื้อชาติผิวสี
น.ส.พอตเตอร์ซึ่งได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นตำรวจ ถูกนำตัวเข้าห้องขัง โดยตำรวจจากสำนักงานตำรวจแผนกคดีอาญารัฐมินนิโซตา ในเมืองเซนต์พอล ที่อยู่ใกล้เคียง และถูกตั้งข้อหากระทำโดยประมาท จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (second-degree manslaughter) ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำเขตปกครองเฮนเนปิน เคาน์ตี เพื่อรอขึ้นศาลนัดแรก
ทางด้านนายทิม แกนนอน หัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองบรูคลิน เซนเตอร์ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า น.ส.พอตเตอร์ยื่นใบลาออกจากตำรวจ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็น "อุบัติเหตุ" โดย เริ่มจากพอตเตอร์เรียกให้ไรท์แสดงหลักฐาน เนื่องจากพบว่าทะเบียนรถหมดอายุ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังค้างอยู่ แต่ไรท์แสดงการขัดขืนการจับกุม น.ส.พอตเตอร์ตั้งใจจะควักปืนไฟฟ้า แต่เกิดความผิดพลาด ควักปืนพกบรรจุกระสุนจริงออกมาแทน
แกนนอนประกาศลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของพอตเตอร์
การลาออกของตำรวจทั้งสอง ไม่สามารถระงับความรุนแรงของการประท้วงได้ ประชาชนยังคงรวมตัวกันตามท้องถนนตั้งแต่วันที่ไรท์เสียชีวิต แล้วปะทะอย่างดุเดือดกับตำรวจ ซึ่งใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางปราบปราม โดยมีผู้ถูกจับกุมจำนวนมาก ผู้ประท้วงรวมตัวกันด้านนอก สำนักงานตำรวจเมืองบรูคลิน เซนเตอร์ เป็นคืนที่ 3 ติดต่อกัน เมื่อวันอังคาร หลายคนขว้างปาขวดน้ำ และวัตถุอื่นๆ ข้ามรั้วกำแพงเข้าไปในสำหนักงาน
การเสียชีวิตของไรท์เกิดขึ้น ในเวลาเดียวกับที่ศาลเขตเฮนเนปิน เคาน์ตี กำลังพิจารณาคดีที่ นายดีเร็ก ชอวิน อดีตตำรวจเมืองมินนีแอโพลิส ตกเป็นจำเลย ในคดีการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี วัย 46 ปี โดยชอวินใช้หัวเข่ากดทับคอของฟลอยด์ จนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ระหว่างการจับกุม หลังฟลอยด์พยายามใช้ธนบัตรปลอมใบละ 20 ดอลลาร์ ซื้อของในร้านค้า เมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว.