"หมอ"ชี้ทางรอด!เร่งสแกนเชิงรุก-แยกกักตัว"ผู้ติดโควิด"

2021-04-14 10:45:07

"หมอ"ชี้ทางรอด!เร่งสแกนเชิงรุก-แยกกักตัว"ผู้ติดโควิด"

Advertisement

"หมอ" ชี้ทางรอดเร่งสแกนชุมชนเชิงรุก แยกกักตัวไม่ไปทำงาน ช่วยหลุดพ้นวิกฤตโควิด

ประจวบคีรีขันธ์โควิดพุ่ง 427 ราย ทารก 8 เดือนติดจากกลุ่มเที่ยวผับ

พิษโควิด! กระทบหนัก “ภูทับเบิก” ไร้เงานักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวฝ่าฝืนธงแดงลงเล่นน้ำหาดขนอม สังเวย 2 ศพ รอด 1


เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า สแกนเชิงรุกชุมชน แยกกักตัวผู้ติดเชื้อ การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส "โควิด-19" ยังน่ากังวลคนไม่น้อย ฝากความหวังไว้กับ "วัคซีน" โดยมีข้อมูลพื้นฐานให้เชื่อมั่นได้ว่าหากได้ฉีดวัคซีน 60-70 เปอร์เซ้นต์ของประชากรทั้งหมดแล้ว จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างปลอดภัย คำถามสำคัญมีว่าจะเพียงพอหรือไม่ มีความเป็นไปได้สูงว่าต้องฉีด 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าฉีด 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ คนที่เหลือที่ยังไม่ได้ฉีดก็ยังติดเชื้อได้ ประเทศบราซิลในเขตเฉพาะเป็นตัวอย่างที่ติดเชื้อตามธรรมชาติถึง 76 เปอร์เซ็นต์ของคนในพื้นที่ ซึ่งควรจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด แต่แล้วก็มีการแพร่ไปเงียบๆ และกระจายไปทั่วประเทศจนปะทุใหม่ปลายเดือนธันวาคมและเป็นเชื้อใหม่ น่าสนใจด้วยว่า "คนที่ฉีด" ไปแล้วก็ยัง "ติดเชื้อ" ได้ ถึงแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม และขึ้นอยู่กับตัวของผู้ได้รับวัคซีนเอง ไม่ได้ขึ้นกับชนิดของวัคซีนอย่างเดียว เมื่อติดก็สามารถจะแพร่กระจายไปเรื่อยๆ แม้หวังว่าปริมาณของเชื้อที่ปล่อยออกมาจะน้อยกว่าและสั้นกว่าธรรมดา ซึ่งการแพร่ไปเรื่อยๆ จะอนุโลมให้ไวรัสกลายพันธุ์เองโดยที่ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ หัวใจสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างก็คือ "คัดกรอง" ต้องเร็วที่สุดและ "แยกตัว" ทันที 




การคัดกรองที่เข้าถึงได้ทุกคน ถือเป็นกุญแจสำคัญ เพราะการคัดกรองว่ามีใครติดเชื้อหรือไม่ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดที่จะป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อและหยุดการระบาดได้เพื่อทำให้เศรษฐกิจไม่ล่มจม ทั้งนี้เนื่องจากการแพร่เชื้อที่สำคัญจะมาจากคนที่ไม่มีอาการแทบทั้งสิ้น การคัดกรองด้วยวิธีการหาเชื้อแยงจมูกด้วยกระบวนการพีซีอาร์ ไม่สามารถระบุได้จากการตรวจเพียงครั้งเดียว และต้องตรวจซ้ำ 2-3 ครั้ง ทำให้งบประมาณบานปลาย และการปฏิบัติยังทำได้ยากและเกิดความล่าช้า อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสี่ยงกับทั้งผู้ปฏิบัติงานและที่ทำงานในห้องแล็บ การตรวจคัดกรองที่สามารถวินิจฉัยด้วยความแม่นยำและความรวดเร็ว 100 เปอร์เซ็นต์นั้น สามารถกระทำได้โดยการตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะเป็นเครื่องชี้ว่าเกิดการติดเชื้อขึ้นแล้ว และสามารถกระทำได้ทั้งในผู้ที่มีอาการและไม่มีอาการ สำหรับ "คนที่มีอาการ" แน่นอนว่าการตรวจเชิงรุกในชุมชนด้วยวิธีที่ได้ผลเร็วเท่านี้ก็รอดแล้ว เพราะเมื่อเจอเร็วก็แยกตัวได้เลย หรือถ้ารู้ว่าสุ่มเสี่ยงอยู่ในวงระบาดก็กักตัวเองกันแต่เนิ่นๆ 


ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ระบุอีกว่า ไม่คิดว่าสถานการณ์ในวันนี้จะเลวร้ายกว่าปีที่แล้ว คงต้องย้ำชัดๆ กันอีกรอบ การกักตัวเริ่มจากไม่ให้ไปทำงาน ไม่ใช่หมายความว่าให้ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ซึ่งถ้าติดเชื้อก็สามารถแพร่เชื้อได้ก่อนมีอาการด้วยซ้ำ และแม้มีอาการก็อาจน้อยนิดแต่ปล่อยเชื้อได้ ส่วนการให้อยู่บ้านไม่ใช่อยู่พักผ่อนสังสรรค์กันในครอบครัวอย่างใกล้ชิด หรือชวนเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ ควรแยกอยู่คนเดียวห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร ควรใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานไม่ใช่ทำจากผ้า เพราะถือว่าขณะนี้ตนเองเป็นคนปล่อยเชื้อได้ แยกจานข้าว ช้อนส้อม แก้วน้ำ เมื่อเข้าห้องน้ำ ถ้าอยู่บ้านหรูหราก็ยึดห้องน้ำหนึ่งห้องไปเลย แต่ถ้าเราเป็นคนธรรมดาต้องใช้ห้องน้ำรวม รอให้คนอื่นเข้าจนเสร็จก่อนแล้วเข้าคนสุดท้าย จัดการทำความสะอาดทุกสิ่งอย่างในห้องน้ำทั้งอ่างน้ำ ก๊อก ชักโครก ลูกบิดประตู ด้วยน้ำกับสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ กรณีอยู่บ้านคนเดียว ถ้าคนอื่นทำงานนอกบ้าน คนที่ถูกกักตัวให้เอาโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ตัว หากเกิดอะไรจะขึ้นจะได้โทรศัพท์บอกคนอื่นได้ ไม่ใช่ถูกปล่อยทิ้งอยู่คนเดียว สลบไสลอยู่ไม่มีใครรู้ ทั้งนี้ถ้าหากเกิดอาการรถที่จะนำไปส่งโรงพยาบาลจะต้องแจ้งคนขับแท็กซี่ หรือถ้าจะใช้รถส่วนตัวต้องทำการล้างห้องโดยสารทั้งห้องอย่างสะอาด ที่สำคัญ คือ อย่าขึ้นรถประจำทางสาธารณะ หรือไม่ก็โทรศัพท์ไปแจ้งโรงพยาบาลให้ส่งรถมารับ ร่ายคาถาการ์ดอย่าตก ท่องไว้ให้แม่นๆ รับมือไวรัสร้ายโควิด-19