JKN แจ้ง ก.ล.ต.ซื้อหุ้นทัั้งหมด "ดีเอ็นบรอดคาสท์" ช่อง NEW 18

2021-04-09 18:35:59

JKN แจ้ง ก.ล.ต.ซื้อหุ้นทัั้งหมด "ดีเอ็นบรอดคาสท์" ช่อง NEW 18

Advertisement

"แอน จักรพงษ์" ทำหนังสือแจ้ง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย JKN เข้าซื้อหุ้นทัั้งหมดจากผู้บริหาร  "ดีเอ็นบรอดคาสท์" ผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลช่อง NEW 18  มูลค่าการลงทุนรวม 1,060 ล้าน

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. เว็บไซต์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานว่า บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) โดย "คุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ได้ทำหนังสือที่ JKNGB-003-04/2564 เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเข้าลงทุนในบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ ช่องนิว 18 เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ครั้งที่ 3/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2564 ได้มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด ("DN") ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ ช่องนิว 18 โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดของ DN (ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน) จำนวน 50,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100 ของหุ้นทั้งหมดของ DN รวมมูลค่า 5,000,000 บาท และการรับโอนสิทธิเรียกร้องในการรับชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้ของ DN รวมมูลค่า 2,381,.869,335.52 บาท โดยบริษัทฯ จะต้องชำระค่าตอบแทนในการรับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าว เป็นจำนวนประมาณ 1,055,000,000 บาท' ให้แก่เจ้าหนี้ของ DN รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,060,000,000 บาท (รวมเรียกว่า "การเข้าลงทุน")

ทั้งนี้ ในวันที่ 9 เม.ย.2564 บริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ DN และสัญญาที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้รับโอนหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ DN และรับโอนสิทธิเรียกร้องในการรับชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้ของ DN เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้ DN มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ อนึ่ง ในการเข้าลงทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศ คณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการ ได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า "ประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์" โดยมีขนาดรายการสูงสุดเมื่อคำนวณตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน เท่ากับร้อยละ 19.23 อ้างอิงจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สำหรับรอบปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2563 และเมื่อพิจารณารวมกับขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน ที่เกิดขึ้นระหว่าง 6 เดือน ก่อนวันประชุมคณะกรรมการบริษัทในครั้งนี้ จึงทำให้มีขนาดรายการรวมตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนประมาณร้อยละ 27.37 ดังนั้น รายการดังกล่าวจึงถือเป็นรายการประเภทที่ 2 ตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์ กล่าวคือ มีขนาดรายการสูงกว่าร้อยละ 15 แต่น้อยกว่าร้อยละ 50 บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยข้อมูลการเข้าทำรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์ฯ") ทันทีโดยมีสารสนเทศอย่างน้อยตามบัญชี (1) ท้ายประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ การเข้าลงทุนของบริษัทฯ ดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ตามประกาศเรื่องรายการที่เกี่ยวโยงกัน

ในการนี้ แม้ว่าคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนใน DN เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2564 แต่เนื่องจากข้อเท็จจริงยังอยู่ในภาวะที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ประกอบกับระยะเวลาการเปิดเผยเป็นสิ่งจำเป็น บริษัทฯ จึงมิได้เปิดผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทันทีภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท แต่เมื่อบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ DN และสัญญาที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้รับโอนหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ DN และรับโอนสิทธิเรียกร้องในการรับชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้ของ DN เรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จึงได้เปิดเผยข้อมูลการเข้าลงทุนใน DN นักลงทุน และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันนี้