ทูตใหญ่เมียนมาประจำสหราชอาณาจักร กลับเข้าสถานทูตในกรุงลอนดอนไม่ได้ หลังออกไปทำธุระข้างนอก ขณะที่รายงานระบุ ผู้ช่วยทูตได้รับคำสั่งจากรัฐบาลทหารเมียนมา ให้ควบคุมสถานที่ทั้งหมด ส่วนสถานการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ล่าสุดจำนวนผู้ประท้วงเสียชีวิต เพิ่มขึ้นเกือบ 600 คนแล้ว
นายจอ ซวาร์ มินน์ เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหราชอาณาจักร (ยูเค) แถลงต่อสื่อมวลชน หน้าสถานเอกอัครราชทูต ในย่านเมย์แฟร์ เขตเวสต์เอนด์ ของกรุงลอนดอน เมื่อเย็นวันพุธ (7 เม.ย.) ว่า ไม่สามารถกลับเข้าสถานทูต ที่ปิดล็อคประตูได้ หลังกลับจากไปทำธุระส่วนตัวข้างนอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็น รัฐประหารกลางกรุงลอนดอน (kind of coup, in the middle of London) และ เขาจะปรึกษาหารือกับกระทรวงการต่างประเทศยูเค เพื่อหาทางออก
แหล่งข่าวนักการทูต เผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า นายชิตวิน อัครราชทูต และผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลทหารในกรุงเนปิดอว์ ให้เข้าควบคุมสถานทูตในกรุงลอนดอนทั้งหมด โดยให้นายชิต วิน รักษาการในตำแหน่งเอกอัครราชทูต
กระทรวงการต่างประเทศยูเค ยังไม่มีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ ขณะที่สำนักงานตำรวจมหานครลอนดอน กล่าวว่า กำลังเฝ้าจับตาการประท้วงหน้าสถานทูตเมียนมามาตลอด และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความวุ่นวาย และเหตุรุนแรง
เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลทหารเมียนมา เรียกตัวนายจอ ซวาร์ มินน์ กลับประเทศโดยด่วนที่สุด หลังจากนายจอซึ่งทำหน้าที่เอกอัครราชทูตประจำยูเค ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ในสมัยรัฐบาลทหารกึ่งพลเรือนของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี และประธานาธิบดีวิน มะหยิ่น 2 ผู้นำรัฐบาลพลเรือน ที่ถูกควบคุมตัว หลังกองทัพยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ.
ทางด้านกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ในนาม สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ เอเอพีพี รายงานความคืบหน้า สถานการณ์ประพ้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ถึงวันพุธที่ 7 เม.ย. จำนวนผู้ประท้วงที่เสียชีวิต จากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 598 คน และถูกจับกุมกว่า 2,800 คน.