ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกัมพูชา เสียชีวิตเป็นรายที่ 19 เมื่อวันศุกร์ (2 เม.ย.) แต่เป็นต่างชาติ ชายชาวเกาหลีใต้ ขณะที่เมืองหลวงกรุงพนมเปญ ตกอยู่ภายใต้ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้านยามวิกาล ระหว่างเวลา 2 ทุ่มจนถึงตี 5 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อพยายามควบคุมการระบาดของโควิด-19
แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 รายล่าสุด เป็นชายวัย 48 ปีชาวเกาหลีใต้ อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ โดยตอนแรกป่วยด้วยโรคอื่น เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมิตรภาพพระโกสมัค กัมพูชา-จีน เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ก่อนที่แพทย์จะตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ในวันเดียวกัน และถูกย้ายไปรับการรักษาที่ศูนย์สาธารณสุขจักรอังกระ ในกรุงพนมเปญ ในสภาพสวมเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากอาการทรุดหนัก
และแม้ว่าทีมแพทย์พยาบาลของศูนย์ฯ จะพยายามช่วยเหลือชีวิต อย่างสุดความสามารถ แต่ชายชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ด้วยอาการปอดบวมและระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
แถลงการณ์ฯ ระบุอีกว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ ในกัมพูชา อีก 99 คน ในระยะ 24 ชั่วโมงจนถึงวันเสาร์ ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมในประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 2,645 คน และรักษาหายอีก 327 คน เป็น 1,585 คน โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 99 คน เป็นชาวเวียดนาม 1 คน ชาวอินโดนีเซีย 1 คน ชาวอเมริกัน 1 คน และชาวจีน 16 คน ส่วนที่เหลือเป็นชาวกัมพูชาทั้งหมด
กรุงพนมเปญ โดยนายควง สเร็ง ผู้ว่าการ ประกาศมาตรการเคอร์ฟิว หรือห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในยามวิกาล ตั้งแต่เวลา 20.00 น. จนถึง 05.00 น. เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพยายามควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
นายควงกล่าวว่า การเดินทางสัญจรในเขตเมืองหลวง ในยามกลางคืน จะถูกห้ามชั่วคราว ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน เช่นเจ็บป่วยไปพบแพทย์ ขนส่งสินค้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปปฏิบัติหน้าที่ หรือคนงานในธุรกิจที่จำเป็นต้องเข้ากะกลางคืน
ธุรกิจที่ไม่จำเป็น เช่น ภัตตาคารร้านอาหาร และบาร์ ต้องปิดให้บริการในเวลาและระยะเวลาที่ประกาศเคอร์ฟิวด้วย.