ใส่รองเท้าส้นสูงเสี่ยง "หมอนรองกระดูกเคลื่อน" จริงหรือไม่?
ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เม.ย.2564
เฟี๊ยวมั๊ย "โอ๊ค"โชว์ลอตเตอรี่ถูกเลขท้าย 2 ตัว
หมอนรองกระดูกสันหลังเป็นส่วนที่คั่นอยู่ระหว่างปล้องกระดูกสันหลังแต่ละปล้อง มีแปลือกภายนอกยืดหยุ่นได้แต่แข็งแรง ส่วนด้านในมีลักษณะนิ่มคล้ายเยลลี่ เมื่อมีภาวะเสื่อมหรือได้รับอุบัติเหตุจะทำให้เปลือกหุ้มมีการฉีกขาด หมอนรองกระดูกส่วนในปลิ้นออกมา ก่อให้เกิดการอักเสบหรือกดทับเส้นประสาทได้
อาการของหมอนรองกระดูกเคลื่อน
ส่วนใหญ่จะมีอาการปวด โดยขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น เช่น ปวดบริเวณคอ หลังหรือบริเวณเอว อาการปวดอาจร้าวไปตามบริเวณที่เส้นประสาทนั้นถูกกด เช่น แขน สะโพกหรือขา ข้างใดข้างหนึ่ง ในบางรายอาจมีอาการอ่อนแรงได้
วิธีสังเกตอาการ
อาการปวดหลังจากหมอนรองกระดูกมักอยู่ลึกกว่าอาการปวดจากกล้ามเนื้อ กดไม่ค่อยเจ็บ หากสังเกตอาการไม่ดีขึ้นหลังจากรับประทานยา, ปวดเรื้อรังมากกว่า 2 สัปดาห์, มีอาการชา อ่อนแรง หรือปัสสาวะอุจจาระไม่ออกร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงภาวะหมอนรองกระดูกเคลื่อน
1. ความเสื่อมตามวัยที่สูงขึ้น
2. ภาวะน้ำหนักตัวเกิน BMI >25
3. อาชีพหรือกิจกรรมที่มีแรงกดต่อกระดูกสันหลังมาก จะเพิ่มความเสี่ยง 3-4 เท่า
4. การนั่งหรือขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากท่านั่งจะเพิ่มแรงดันในหมอนรองกระดูก 40%
5. พันธุกรรม 32 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย พบว่ามีประวัติในครอบครัว
6. การสูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงประมาณ 2 เท่า
การรักษา
1.การรักษาแบบไม่ผ่าตัด ได้แก่
a.การรับประทานยา
b.การพัก/ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานแผ่นหลัง
c.การทำกายภาพ
d.การฉีดยาเข้าโพรงประสาท
2.การรักษาแบบผ่าตัด
a.เมื่อมีอาการปวดไม่ดีขึ้น, ชาหรืออ่อนแรงมากขึ้น, รบกวนคุณภาพชีวิต
b.เพื่อนำหมอนรองกระดูกที่กดทับเส้นประสาทออก โดยอาจผ่าตัดแบบแผลเปิดหรือส่องกล้อง ตามความเหมาะสม
การใส่รองเท้าส้นสูงเสี่ยงเป็นหมอนรองกระดูกเคลื่อนได้หรือไม่
การใส่รองเท้าส้นสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้น้ำหนักตัวเอียงไปด้านหน้าส่งผลให้มีการแอ่นตัวไปด้านหลังชดเชย มีการเปลี่ยนแปลงแนวโครงสร้างของกระดูกสันหลังส่งผลให้กล้านเนื้อบริเวณ หลัง เข่า และสะโพก ทำงานหนักผิดปรกติ และมีอาการปวดกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเสื่อมและการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกอีกด้วย
วิธีการป้องกันในเบื้องต้นและระยะยาว
1. ควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป
2. ฝึกบริหารกล้าเนื้อหลังและลำตัวให้แข็งแรง
3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
4. หลีกเลี่ยงการนั่งติดต่อกันเป็นเวลานาน ลุกบริหารยืดกล้ามเนื้อทุกๆ 1-2 ชั่วโมง
5. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีแรงกดต่อกระดูกสันหลังมาก เช่น ยกของหนัก การก้มๆเงยๆ หรือกีฬาบางประเภท
คำแนะนำในการใส่รองเท้าส้นสูง
1. ไม่ควรสวมรองเท้าที่มีส้นสูงเกินกว่า 1-2 นิ้ว
2. หากจำเป็นต้องใส่ส้นสูง ให้ลดเวลาการยืนหรือเดินด้วยรองเท้าส้นสูง
3. ควรให้เท้าได้พักอยู่ในท่าปกติบ้างทุกๆ 2 ชั่วโมง
4. ใช้รองเท้าที่หน้ากว้างพอที่รองรับเท้าได้ทั้งหมด
5. พื้นรองเท้าควรมีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม
อ.นพ.สรวุฒิ ธรรมยงค์กิจ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ
สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล