เครื่องบินกองทัพเมียนมา ยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อฐานที่มั่นของกองกำลังชนกลุ่มน้อย ในรัฐกะเหรี่ยง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ติดเขตแดนไทย เพื่อเอาคืนการถูกโจมตียึดฐานประจำการ ส่วนการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร มีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิตอีกอย่างน้อย 3 คนเมื่อวันจันทร์ (29 มี.ค.)
นายเดวิด ยูแบงก์ ผู้ก่อตั้ง "ฟรี เบอร์มา เรนเจอร์ส" องค์กรอิสระสนับสนุนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในเมียนมา เผยเมื่อวันจันทร์ ว่า เครื่องบินรบกองทัพเมียนมาอย่างน้อย 2 ลำ โจมตีทางอากาศต่อเป้าหมาย ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำสาละวิน ใกล้เขตแดนทางตะวันออก ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( เคเอ็นยู ) ติดต่อกันเป็นวันที่สอง เมื่อวันอาทิตย์ สังหารนักรบเคเอ็นยูอย่างน้อย 2 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
การโจมตีทางอากาศ ส่งผลให้ชาวบ้านในรัฐกะเหรี่ยงกว่า 3,000 คน ที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้าน ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่สู้รบ หลบหนีภัยข้ามแดนเข้าสู่ฝั่งไทย
นับ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่กองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว โดยปฏิบัติการของกองทัพเมียนมาในครั้งนี้ เป็นการตอบโต้จากกรณีที่นักรบเคเอ็นยูบุกโจมตีฐานปฏิบัติการแห่งหนึ่งของกองทัพเมียนมาในพื้นที่ และสังหารทหารอย่างน้อย 10 นาย จับกุมเป็นตัวประกันอีก 8 นาย
ทางด้านสถานการณ์ประท้วง ต่อต้านกองทัพเมียนมา ประชาชนหลายหมื่นคน ออกมาเดินขบวนตามท้องถนน ในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศอีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ และ มีรายงานผู้ประท้วงถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยิงเสียชีวิต อีกอย่างน้อย 14 คน รวมถึง 3 คนในเมืองย่างกุ้ง ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิต ตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลเพลเรือน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 510 คน จากการตรวจนับของกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ในนาม สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ เอเอพีพี.