“จุรินทร์”ลงนามกับสหราชอาณาจักรหวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน

2021-03-29 18:30:56

“จุรินทร์”ลงนามกับสหราชอาณาจักรหวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน

Advertisement

“จุรินทร์”ลงนามกับสหราชอาณาจักรหวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้อีก 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในปี 2567

แฟนเก่า "เบส รักษ์วนีย์ คำสิงห์"ขอพูดบ้าง

"อ.อ๊อด"โพสต์ภาพรอยพญานาค "เฟี้ยว์ฟ้าว" พร้อมข้อความสั้น ๆชัดมาก

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 29 มี.ค.  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์  พร้อมด้วย นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักรฯ ในรูปแบบสามมิติ (Hologram) ร่วมกับนางเอลิซาเบธ ทรัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร สํานักงาน ปลัดกระทรวงพาณิชย์


นายจุรินทร์ กล่าวว่า การค้าระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรในปีที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากในอดีตเพราะสถานการณ์ของโควิด การร่วมมือกันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องร่วมมือเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ประเทศ ได้เชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่มูลค่าระหว่างกันให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืนบนรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างกันที่มั่นคงยาวนานกว่า 165 ปี ตลอดปีที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ประเทศไทย และกระทรวงการค้าระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักรได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อทบทวนนโยบายการค้าระหว่างกันจนในที่สุดได้เกิดผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งในวันนี้คือการลงนามในเอ็มโอยูที่จะนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (Joint Economic and Trade Committee: JETCO) ขึ้นมา JETCO จะเป็นเวทีหารือเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการตั้งแต่สหราชอาณาจักรได้ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ยินดีที่รับทราบว่าไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ได้ลงนามกับสหราชอาณาจักร เพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเป็นเวทีในการทำงานร่วมกันลดอุปสรรคด้านการค้าเพิ่มการลงทุนขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอสเอ็มอีโดยเริ่มจากสาขาที่มีความสำคัญ ได้แก่ เกษตรและอาหาร การเงิน สุขภาพ และเทคโนโลยีซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพและมีทรัพยากรที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันล้วนเป็นสาขาธุรกิจแห่งอนาคต ในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานร่วมกันในระหว่างรัฐต่อรัฐ หรือเอกชนต่อเอกชนภายใต้ JETCO จะมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาประเทศของเราทั้งสองซึ่งเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ การค้าที่สำคัญให้มีความใกล้ชิดยิ่งขึ้นและการมีการทำ FTA ระหว่างกันในอนาคตด้วย โดยคาดว่า จะสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้อีก 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในปี 2567


ทั้งนี้ ในปี 2563 การค้าระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรมีมูลค่าการค้ารวม 4,875.69 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.51 แสนล้านบาท) ไทยส่งออก 3,087.20 ล้านเหรียญสหรัฐ (9.56 หมื่นล้านบาท) และนำเข้า 1,788.49 ล้านเหรียญสหรัฐ (5.55 หมื่นล้านบาท) สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปสหราชอาณาจักร เช่น ไก่แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์และอุปกรณ์ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากสหราชอาณาจักร เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องดื่ม เป็นต้น