"สุชาติ" เผย "ม33เรารักกัน" 1 สัปดาห์กระตุ้น ศก.กว่า 4,603 ล้าน

2021-03-29 16:50:04

"สุชาติ" เผย "ม33เรารักกัน" 1 สัปดาห์กระตุ้น ศก.กว่า 4,603 ล้าน

Advertisement

"สุชาติ" เผย "ม33เรารักกัน" โอนเงินงวด 2 แล้ววันนี้ ชี้ผ่านมา 1 สัปดาห์กระตุ้นเศรษฐกิจใช้จ่ายกว่า 4,603 ล้าน

"อ.อ๊อด"โพสต์ภาพรอยพญานาค "เฟี้ยว์ฟ้าว" พร้อมข้อความสั้น ๆชัดมาก

“เบส รักษ์วณีย์” ร่ายยาวเคลียร์ด่วน หลังเจอดราม่าคบ “ตงตง” ซ้อนแฟนเก่า

"ริต้า” อวดมุมเป๊ะหุ่นปัง หลังคลอดลูกชาย หุ่นลดไวจนชาวเน็ตแอบห่วง

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. นายสุชาติ ชมกลิ่น  รมว.แรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ ม33เรารักกันว่า ตามที่รัฐบาล ภายใต้การนำของ ล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้ประกันตนมาตรา 33 ให้ได้รับสิทธิคนละ 4,000 บาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการโอนเงินงวดที่ 2 จำนวน 1,000 บาท ผ่านแอพพลิเคชั่น  "เป๋าตัง" ให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิในโครงการ ม33เรารักกัน แล้ว โดยเหลืออีก 2 งวด คือ งวดที่ 3 จะโอนในวันที่ 5 เม.ย.64 และงวดที่ 4 โอนในวันที่ 12 เม.ย.64 ภาพรวมการใช้จ่ายตามนโยบายรัฐบาล โครงการ ม33เรารักกัน ผลปรากฏว่า วันที่ 22 – 28 มี.ค. 64 มียอดใช้จ่ายสะสม จำนวน 4,603,989,005.52 บาท

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มทบทวนสิทธิและกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ในโครงการ ม33เรารักกันซึ่งครบกำหนดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2564 พบว่า กลุ่มทบทวนสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com มีจำนวน 709,190 คน กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ได้มาลงทะเบียนที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครทุกแห่งทั่วประเทศ มีผู้ลงทะเบียนสำเร็จสะสมแล้ว จำนวน 32,827 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 742,017 คน ซึ่งจะประกาศผลยื่นทบทวนสิทธิในวันที่ 5 เม.ย.2564 โดยกลุ่มทบทวนสิทธิผ่านเว็บไซต์ สามารถตรวจสอบผลได้เว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com และจะโอนเงินเข้าแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" ให้กับกลุ่มดังกล่าว จำนวน 4,000 บาท ในวันที่ 12 เม.ย. 2564 ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น สำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผลและวิธีรับเงินให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ โครงการนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.2564 จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ประกันตนใช้จ่ายเงินภายในวันดังกล่าว และแจ้งเตือนไปยังผู้ได้รับสิทธิอย่าทำผิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขโครงการ อย่าหลงเชื่อผู้ให้ผลประโยชน์เป็นเงินสด โดยไม่มีการซื้อสินค้าอย่างถูกต้อง ร้านค้าต้องไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและต้องแสดงตั้งป้ายราคาสินค้าให้ชัดเจน หากพบจะแจ้งให้กรมการค้าภายในดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด