ตร.ย้ำเตือน ปชช.เช็คให้ดีก่อนตกเป็นเหยื่อ "มิจฉาชีพ" ส่ง "พัสดุ" เรียกเก็บเงินปลายทาง
"มาดามเดียร์"แจงดราม่ายันปฏิบัติตามคำแนะนำ ศบค.เคร่งครัด
"หนุ่ม"ยันไร้ทวิตเตอร์ ปัดคุกคาม"ลูกสาวบิ๊กตู่"
ตร.เตรียมฝากขัง"94 ผู้ชุมนุม"หมู่บ้านทะลุฟ้า
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ในฐานโฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. กล่าวถึงการนำเสนอข่าวกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนหนึ่ง ได้รับพัสดุเรียกเก็บเงินปลายทาง ทั้งๆ ที่ไม่ได้สั่งซื้อสินค้า ว่า การกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมีมานานเเล้ว โดยมิจฉาชีพจะบรรจุสินค้าที่มีราคาต่ำ แล้วส่งไปยังผู้รับตามที่อยู่ต่างๆ จำนวนมาก เมื่อสินค้าไปถึง ผู้รับบางรายไม่ได้ตรวจสอบให้ดีจึงยอมชำระเงินค่าสินค้า เพราะอาจเห็นว่าราคาสินค้าไม่ได้ราคาสูงมาก และจำไม่ได้ว่าเคยสั่งสินค้า หรือคนในครอบครัวสั่งไปหรือไม่ เมื่อเปิดออกมาดูกลับพบว่าถูกหลอกลวงได้รับความเสียหาย การกระทำดังกล่าวผู้ส่งจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญ และตระหนักถึงภัยจากอาชญากรรมทางออนไลน์ จึงกำชับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ สอท. ดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการรป้องกัน และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน หรือผู้ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ให้ถูกลอกหลวงจากมิจฉาชีพ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชน หากได้รับพัสดุในลักษณะดังกล่าวขอให้ทำการตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าตัวเอง หรือบุคคลในครอบครัวสั่งสินค้าจริง ถ้าสั่งจริงต้องตรวจสอบว่าสินค้ามีราคาเท่าใด พร้อมตรวจสอบว่ามีการระบุชื่อผู้ส่ง หรือแหล่งที่มาหรือไม่ หากระบุไว้ ควรนำไปค้นหาในเว็บไซต์ก่อนว่ามีประวัติการหลอกลวงหรือไม่ หากเข้าข่ายมีพิรุธต้องสงสัย ขอให้ปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้านั้น และอย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาด ที่สำคัญ คือ ควรถ่ายรูปกล่องพัสดุให้ครบทุกด้าน เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป