กองทัพเมียนมาฉลองวันสถาปนา 27 มี.ค.ด้วยการเดินสวนสนามของเหล่าทัพ ในเมืองหลวงกรุงเนปิดอว์ และในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ ยิงผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 114 คน ในกว่า 24 เมืองทั่วประเทศ นับเป็นวันนองเลือดที่สุด ตั้งแต่เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหาร หลังกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนนำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.
เว็บไซต์ข่าว เมียนมา นาว รายงานเมื่อคืนวันเสาร์ (27 มี.ค.) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการประท้วง ตลอดทั้งวันเสาร์ สูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 114 คน ส่วนการตรวจนับโดยนักวิจัยอิสระรายหนึ่งในเมืองย่างกุ้ง ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 107 คน ในกว่า 24 เมืองใหญ่และเล็กทั่วประเทศ
ตัวเลขทั้ง 2 แหล่งข่าว ลบสถิติจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดก่อนหน้านี้ ที่ 74 – 90 คน เมื่อวันที่ 14 มี.ค.
การสังหารล่าสุดเรียกเสียงประณามจากนานาชาติอย่างรวดเร็ว โดยสถานทูตและสถานกงสุลของหลายประเทศ ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีการสังหารพลเรือนเป็นจำนวนมาก เมื่อวันเสาร์ รวมถึงเด็กหลายคน แถลงการณ์ของสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรป หรือ อียู ประจำเมียนมา ทางทวิตเตอร์ กล่าวว่า วันกองทัพเมียนมาปีที่ 76 นี้ จะถูกจารึกว่าเป็นวันสยองขวัญ และวันไร้เกียรติ การสังหารพลเรือนที่ไม่มีอาวุธ รวมถึงเด็ก ถือเป็นการกระทำต่อเป้าหมายที่ไม่สามารถป้องกันตนเองได้
ส่วนแถลงการณ์ของนายโธมัส วาจดา เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำเมียนมา กล่าวว่า กองกำลังความมั่นคงฆาตกรรมพลเรือนไร้อาวุธ นี่ไม่ใช่การกระทำของทหารหรือตำรวจมืออาชีพ และประชาชนชาวเมียนมาพูดชัดเจน พวกเขาไม่ต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพ
จำนวนผู้ประท้วงเสียชีวิตในเมียนมา สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงมากขึ้น ในความพยายามปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร โดยนับถึงวันศุกร์ที่ 26 มี.ค. กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ในนาม สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ เอเอพีพี ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิต 328 คน และเมื่อรวมกับของเว็บไซต์ข่าวเมียนมา นาว ในวันเสาร์ ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็น 442 คน.