รองนายกฯ เผยรัฐบาลเร่งประเมินความพร้อมเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ด้านภูเก็ตเสนอนำร่องเป็นจังหวัดแรก ยืนยันต้องคุ้มค่าและไม่แพร่ระบาดโควิด-19 ซ้ำ
“อั๋น ภูวนาท” กรี๊ด ! เล่านาทีกระป๋องน้ำอัดลมระเบิดคารถ แรงดันมหาศาลจนโลหะฉีกขาด
สุดท้ายก็คือเพื่อนกัน "เจนนี่" จบทางรัก "เนเงิน" ปิดฉากงานแต่งในฝัน
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. วันนี้จะมุ่งเน้นพิจารณาหลักการความก้าวหน้าของคณะกรรมการและทีมงานปฏิบัติการเชิงรุกด้านเศรษฐกิจที่ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของประชาชน ซึ่งจากการติดตามข้อมูลผ่านเวทีเสวนาต่างๆ มองเห็นถึงโอกาสของประเทศไทยในหลากหลายด้าน หลังสถานการณ์โควิด-16คลี่คลาย เพราะไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการขยายฐานการผลิต และการเป็นประเทศรองรับกลุ่มผู้สูงอายุที่จะเดินทางมาพักอาศัยในประเทศไทยหลังเกษียณ โดยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะทำประกันสุขภาพด้วย ดังนั้นประเทศไทยจะได้ประโยชน์ทั้งด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ควบคู่กันไป
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามกำหนดการเดิมจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จึงจะมีการพิจารณาจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะพื้นที่แถบอันดามันมาเป็นจังหวัดนำร่อง แต่เนื่องจากยังไม่ทราบจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา เนื่องจากทุกประเทศเพิ่งจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 จึงต้องมีการประเมินสถานการณ์ภาพรวมอีกครั้งว่าหากเปิดประเทศแล้วจะมีความคุ้มค่าหรือไม่ ทั้งนี้เบื้องต้นมี จ.ภูเก็ตที่แสดงความจำนงเป็นจังหวัดนำร่อง โดยเสนอขอเปิดจังหวัดก่อนไตรมาส4 ซึ่งก็จะมีข้อเสนอมายังภาครัฐว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อดำเนินการแล้วจะต้องมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพื่อความคุ้มค่าและต้องไม่ส่งผลกระทบต่อการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ให้ทุกฝ่ายไปทำการบ้านในทุกมิติ ทั้งเชิงรุก-เชิงรับ โดยเฉพาะความพร้อมรองรับหากเกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีกระลอก โดยสามารถถอดบทเรียนจากจังหวัดสมุทรสาครได้ นอกจากนี้จะมีการรายงานการใช้ประโยชน์จากโครงการต่างๆของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ภาคประชาชนด้วย